ร่วมเป็นสักขีพยานความยิ่งใหญ่! รัฐสภาจัดพิธีสำคัญ อัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) องค์ใหม่ ที่สูงกว่าองค์จริงถึง 4 เท่า พร้อมเผยรายละเอียดการจัดสร้างที่เต็มไปด้วยความหมายเชิงประวัติศาสตร์ สะท้อนถึงวันสำคัญเมื่อพระองค์ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก

วันที่ 20 ก.ย.2568 เวลา 07.00 น.บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) สภาฯได้จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ โดยมีนายไชยา พรหมมา รองประธานสภาคนที่สอง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า  และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการวุฒิสภา พร้อมด้วยผู้บริหารทั้ง 2 สำนักงาน หน่วยงาน และส่วนราชการร่วมในพิธีด้วย

ทั้งนี้ ยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัย และโปรยดอกไม้ ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้

จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง  อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน เครื่องทองน้อย โดยเวลา 09.00น.ได้อัญเชิญพระบรมรูปฯขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งพุดตานเป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ใหม่ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้ออกแบบให้มีขนาด 4 เท่าของพระองค์จริง ความสูงจากยอดพระชฎา จนถึงพื้นของพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ 7.7 เมตร ทรงเครื่องบรมราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย ทรงพระชฎามหากฐินปักขนนกการเวก หรือ “ปักษาสวรรค์” ซึ่งเครื่องราชศิราภรณ์ประเภทชฎา มีศักดิ์สูงรองจาก “พระมหาพิชัยมงกุฎ” โดยมีความแตกต่างจากพระองค์เดิม คือมีพระที่นั่งกระจังใบเทศ 12 ใบ ฐานสองชั้นประดับรายรอบด้วยเทพพนม 21 องค์ พญาครุฑ 24 ตน

โดยการจัดสร้างพระบรมรูปฯ เป็นการสร้างให้คล้ายกับภาพเมื่อวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกแห่งราชอาณาจักรไทย 10 ธ.ค. พ.ศ. 2475

ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีฝนโปรยปราย และหยุดก่อนทำพิธี