"เพื่อไทยเดินหน้าเต็มสูบ! “หมอชลน่าน” เผยความคืบหน้าร่างแก้รัฐธรรมนูญ ยืนยันยึดคำวินิจฉัยศาลฯ พร้อมเผยที่มา “ส.ส.ร.” แบบเลือกตั้ง 2 ชั้น ที่ออกแบบมาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย จะจบตามแผนหรือไม่ เตรียมเข้าสภาฯ ต.ค.นี้
วันที่ 20 ก.ย.2568 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงถึงความคืบหน้าของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไรบ้างว่า คณะทำงานได้พิจารณาร่างเบื้องต้นที่ฝ่ายเลขานุการจัดทำมาแล้ว และได้ให้ข้อคิดเห็นเพื่อนำไปปรับแก้ ซึ่งถือว่าร่างเบื้องต้นเสร็จแล้ว ส่วนหลักการสำคัญของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือการยึดแนวทางการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นเฉพาะการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น ด้วยการเพิ่มหมวด 15/1 เข้าไป โดยไม่แตะต้องมาตราอื่น ๆ เช่น มาตรา 256 หรือประเด็นอื่น ๆ เนื่องจากมีระยะเวลาจำกัด
เมื่อถามใครจะเป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จะใช้คำว่า "สภาร่างรัฐธรรมนูญ" (ส.ส.ร.) เพราะเป็นคำที่รู้จัก และเข้าใจโดยทั่วไป อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้มีการมีส่วนร่วมมากที่สุด ส่วนที่มาส.ส.ร.นั้นเพื่อไม่ให้ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงใช้วิธีการเลือกตั้งทางอ้อม โดยแบ่งที่มาเป็น 2 ส่วน รวมประมาณ 140-150 คน คือ 1. ตัวแทนจากประชาชน (ประมาณ 100 คน): ประชาชนในแต่ละจังหวัดจะเลือกตั้งผู้ที่สมควรได้รับเลือกเป็น ส.ส.ร. มา 2 เท่าของจำนวนที่จังหวัดนั้นๆ จะมีได้ โดยคำนวณตามฐานประชากร เช่น หากจังหวัดน่านมีโควตา ส.ส.ร. 2 คน ประชาชนจะเลือกมา 4 คน แล้วส่งรายชื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาคัดเลือกให้เหลือ 2 คน 2. ตัวแทนจากองค์กรต่างๆ: มาจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรวิชาชีพ ซึ่งจะส่งตัวแทนเข้ามา และผ่านการแต่งตั้งโดยสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเสร็จทันเวลาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวมั่นใจว่า จะเสร็จทัน หากไม่มีอุปสรรคอื่น โดยคาดว่าจะสามารถเสนอร่างฯ ได้ในช่วงเดือนต.ค. ก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 31 ต.ค. และอย่างช้าที่สุด การส่งร่างเพื่อทำประชามติต้องไม่เกินวันที่ 15 ม.ค.69 หากดูจากวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 29-30 กันยายนนี้ และนับไปคำนวณเวลายุบสภา เว้นไว้ 15 วัน เพื่อส่งให้ทำประชามติ