วันที่ 17 ก.ย.68 หลังจากผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข่าว กรณีที่โรงเรียนบ้านโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้รับความเสียหาย จากผลกระทบจากแรงสั่นเทือนของปืนใหญ่ ช่วงเหตุการณ์ปะทะ ของทหารไทยและกัมพูชา ที่ผ่านมา ทำให้ฝ้าเพดาน หลังคาอาคารฝ กระจก หน้าต่าง ประตู และอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย จำนวน 3 อาคารเรียน โดยโรงเรียนบ้านโคกกรม ได้สำรวจความเสียหายเบื้องต้นส่งให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 68 ยังไม่ได้รับการประสานในการซ่อมแซมอาคารเรียน เนื่องจากต้องรองบประมาณที่อาจจะได้ล่าช้า แต่เด็กนักเรียนยังต้องใช้ห้องเรียนจึงกังวลว่าเด็กจะได้รับอันตราย
ล่าสุด บริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อประสานงานผ่าน พ.อ.ธนาคม เลื่อนทอง หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 25 เพื่อเสนอตัวในการปรับปรุงซ่อมแซมห้องเรียนและอาคารเรียนจุดที่เสียหายต่างๆให้กับเด็กๆนักเรียนเองทั้งหมด ซึ่งได้มีการดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมมาแล้วร่วม 2 สัปดาห์ โดยมีช่างจาก บริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อม จิตอาสา 904, จิตอาสาพระราชทาน อ.พนมดงรัก และ ชป.กร.มทบ.25 ส่ง จนท.มาช่วยกันปรับปรุงซ่อมแซม โดยเปลี่ยนฝ้าเพดาน บนชั้น 2 อาคารเรียนใหม่ทั้งหมด จำนวน 2 อาคาร พร้อมทั้งบานประตูใหม่ทุกห้อง เปลี่ยนหลังคาจุดที่รั่ว และฝ้าอาคารไม้อีก 1 อาคาร เฉพาะจุดที่รั่วหลายแห่ง ส่วนกระจกห้องเรียนที่แตกอยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนใหม่ นอกจากนี้ ยังทาสีห้องเรียนต่างๆจนมีสภาพที่สวยงามและดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งต้องใช้งบประมาณการปรับปรุงซ่อมแซม ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท
พ.อ.ธนาคม เลื่อนทอง หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 25 พร้อม เจ้าหน้าที่ ชป.กร.มทบ.25 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของการปรับปรุงซ่อมแซม ที่ช่างกำลังเปลี่ยนหลอดไฟเพดานให้ จากนั้นได้นำของเด็กเล่นไปแจกให้กับเด็กๆอนุบาลอีกด้วย
นายกิตติศักดิ์ เพ่งเล้งดี ผอ.โรงเรียนบ้านโคกกรม กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณบริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ซ่อมแซมอาคารที่พังและทำให้นักเรียนนั้นมีความประทับใจ รวมทั้งคุณครูและชุมชน ที่ท่านให้เกียรติมาดูแลปรับปรุงอาคารเรียน ส่วนงบประมาณของรัฐ ก็จะมีการปรับปรุงซ่อมแซมในจุดนอกเหนือจากที่บริษัทซ่อมให้ต่อไป ซึ่งขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกัน
นายณรงค์ หนูสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหลวง ม.11 ต.จีกแดกฯ กล่าวว่า ตนในนามผู้นำชุมชนและผู้ปกครองเด็ก ก็ขอขอบคุณบริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่มาช่วยซ่อมแซมปรับปรุงห้องเรียนให้เด็กๆ ซึ่งก่อนหน้านี้แผ่นฝ้าที่พังและใกล้จะตกตลอดเวลา ชุมชนขอขอบคุณแทนเด็กๆซึ่งหน่วยงานภาครัฐก็มีงบประมาณอยู่แล้ว แต่อาจจะช้ากว่าน้ำใจของคนไทยเราหน่อย ด้วยวิธีการของการดำเนินขั้นตอนของโครงการต่างๆ ส่วนเรื่องของสงครามคาดว่าจะไม่ได้จบเท่านี้ เพราะกัมพูชายั่วยุตลอดเวลา ส่วนผู้นำชุมชนก้ได้เตือนให้ลูกบ้านมีความพร้อมและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ก็พร้อมอพยพได้ทันที ตนอยากให้จัดการเรื่องชายแดนให้จบแบบให้เข็ด จะได้ไม่สร้างปัญหานี้ไปถึงลูกถึงหลานเรา เพราะชาวบ้านลำบากมากตอนอพยพ ซึ่งได้น้ำใจของประชาชนที่ดูแลกันเป็นอย่างดี แต่สัตว์เลี้ยงตามบ้านเรือนต้องอดอาหาร แม้ผู้นำจะช่วยเหลือดูแลหมู่บ้านทุกอย่างแต่ไม่ทั่วถึง อยากให้ภาครัฐมาดูแลเรื่องนี้ด้วย และฝากช่วยดูแล ชรบ.ให้เต็มที่ด้วย และขอบคุณหลุมหลบภัยของเด็กในโรงเรียน ที่ชาวบ้านและผู้นำชุมชน รวมทั้งนางปทิดา ตันติรัตนานนท์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 8 ในพื้นที่นำท่อซีเมนต์มามอบให้และช่วยกันสร้าง ได้ใช้ให้เด็กนักเรียนหลบภัยช่วงสงครามี่ผ่านมา