"กลุ่ม สว.สำรอง” บุกยื่นหนังสือถึง “พรรคเพื่อไทย” สอบคดี “ฮั้ว สว.” อาจมี “มือที่มองไม่เห็น” แทรกแซงในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประกาศพร้อมใช้กลไกสภาเดินหน้าตรวจสอบความโปร่งใสแบบไม่เกรงใจใคร
วันที่ 17 ก.ย.2568 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา กลุ่ม สว. สำรอง นำโดย นายธนวัฒน์ ศรีสุจ และคณะ ยื่นหนังสือถึงนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้ติดตามคดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดง
โดยนายธนวัฒน์ กล่าวว่า รู้สึกกังวล และห่วงใยในการทำคดี ฮั้ว สว. เนื่องจากมีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อไปสอบปากคำพยาน 1,200 ปาก แต่มีมือที่มองสั่งให้กลับทันที ดังนั้น จึงมายื่นต่อพรรคเพื่อไทย ฝากสอดส่องดูแล ใช้กลไกสภาในการตรวจสอบ
เนื่องจากคดีฮั้วสว.เป็นคดีความมั่นคง เพราะมีองค์ประกอบพิเศษ ที่เป็นคดีที่กระทบต่อโครงสร้างรัฐ และเสถียรภาพของประเทศ และยังพบว่ามีการจัดตั้งเครือข่ายผู้ควบคุมอำนาจนิติบัญญัติ และบริหาร เข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 และ 114 ฐานกบฏและล้มล้างการปกครองหรือไม่
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยเข้ามาทำหน้าที่ ไม่ว่าจะในฐานะอดีตรัฐบาล หรือว่าที่ฝ่ายค้าน ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล โดยเฉพาะกระบวนการฮั้วสว. ต้องเรียกว่าเป็นกระบวนการใหญ่ระดับชาติ ที่มีคนได้รู้ได้เห็นและตั้งคำถามทั่วทั้งประเทศ วันนี้เรากำลังเป็นฝ่ายค้านแท้ๆ ที่พร้อมทำหน้าที่ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน
โดยเฉพาะสว.สำรอง ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกติกาและกลไก จากกระบวนการฮั้วสว. จึงทำให้ได้สว.ที่อาจมีหน้าตาผิดฝาผิดตัวหรือไม่ ดังนั้น พรรคยินดีเต็มที่ที่จะตรวจสอบ และจะจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลเป็นอย่างที่กลุ่มสว.พูด หรือไม่ พรรคยินดีรับภาระดำเนินการทั้งในกลไกรัฐสภา และทำงานควบคู่ไปกับภาคประชาชน
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายในวันที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมือง ในการประชุมสส.ของพรรค ก็ได้มีการปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนกัน ว่าการทำหน้าที่ฝ่ายค้านแท้ให้เหมาะสมลงตัวจะเป็นอย่างไร จะอภิปรายอะไรได้บ้าง เพราะใน MOA ที่พรรคประชาชน(ปชน.)สนับสนุน ระบุว่าไม่ได้ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล มาบริหารประเทศ แต่ให้มายุบสภา
ฉะนั้นเขาต้องอธิบายว่าไทม์ไลน์ยุบสภาเป็นอย่างไร การจะไปอภิปรายนโยบายรัฐบาลตนไม่แน่ใจว่าจะผิดฝาผิดตัวหรือไม่ ขอย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ทำงานบนพื้นฐานความแค้น หรือการฝั่งใจในอดีต แต่หากเห็นว่าอภิปรายและเสนอแนะในส่วนของนโยบายได้ เราก็พร้อมทำหน้าที่
“พรรคประชาชนให้สัมภาษณ์ตลอดว่าเขาไม่ได้เลือกนายกฯที่เป็นคนเก่ง ไม่ได้เลือกนายกที่เป็นคนดี ไม่ได้เลือกมาเพื่อให้บริหารประเทศ แต่เลือกนายอนุทินให้มายุบสภา ดังนั้น จึงไม่แน่ใจว่าการแถลงนโยบายรัฐบาลจะมีเรื่องอื่นนอกจากการยุบสภา แล้วเราจะสามารถอภิปรายได้หรือไม่” นายอนุสรณ์ กล่าว