เมื่อวันที่ 17 ก.ย.68 ที่ร้านมาเรียมข้าวหมกไก่ทอด พบนายไชยชนะ นามเมืองรักษ์ อายุ 36 ปีเจ้าของร้านมาเรียมข้าวหมกไก่และไก่ทอด 8 สาขาใน อ.เบตง บอกว่า ช่วงนี้ทางร้านขอรับเงินสด ลดการสแกนให้น้อยลงและในอนาคตอาจจะไม่รับสแกนเลย เพราะว่าเมื่อบัญชีโดนอายัดมา ไม่มีเวลาที่จะไปตามส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการแก้ไขอยู่ก็ต้องรอดูว่าผลออกมายังไงและหลังจากนนั้นค่อยว่ากันอีกครั้ง ซึ่งช่วงนี้ก็ระงับการรับสแกนไว้ก่อน นอกจากว่าลูกค้าจะไม่มีเงินสดจริงๆ แต่หลังจากที่เก็บป้ายรับสแกนโอนจ่าย ก็มีลูกค้ามาบ่นกันเยอะบอกว่ามาถึงยุคไหนแล้ว  เราเองก็ชี้แจงไปและลงในเพจของร้านมาเรียม ข้าวหมกไก่  ว่าตออนี้ที่ร้านหยุดรับสแกนจ่ายชั่วคราว แต่ยังไงที่ร้านก็ไม่ถึงกลับไม่รับสแกนเลย จะดูลูกค้าขาประจำเพราะเจอกันทุกวัน และอีกอย่างให้ลูกน้องสังเกตลูกค้าด้วย โดยเฉพาะลูกค้าขาจร เพราะที่ร้านรับทำอาหารกล่องด้วย  หากมีการสแกนจ่ายเงินจำนวน1,000-2,000 บาทขึ้นไป ก็ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนโดยเฉพาะวัยรุ่นอายุ 25-30 ปี และให้ขอเป็นเงินสดโดยเฉพาะลูกค้าไม่คุ้นหน้า อาจะเป็นการเวียนจ่ายเงินจากบัญชีม้าก็ได้  และอีกอย่างเชื่อว่าสาเหตุมาจากกระแสการอายัดบัญชี ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ส่วนตัว มีความกังวลมาก เพราะเงินเข้า-ออกบัญชีตลอดทั้งวัน แต่ยังไม่ได้ถอนออกมาทั้งหมด เพราะเงินในบัญชียังจำเป็นต้องใช้โอนจ่ายค่าของที่นำมาขายทุกวัน

“ส่วนเรื่องบัญชีม้าเป็นเรื่องที่ผมคาดเดาไม่ได้เลยว่าเราจะถูกโยงไปเมื่อไหร่ เพราะเราค้าขายทุกวันยิ่งอำเภอเบตงช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมากที่เข้ามาซื้อ เราเลยไม่รู้ว่าลูกค้ามาจากไหนบ้าง มองว่าการแก้ปัญหาการโกงออนไลน์ด้วยวิธีอายัดบัญชีผู้เกี่ยวเป็นวงกว้างนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด และทำให้ประชาชนที่ทำมาค้าขายตามปกติได้รับความเดือดร้อน”