“ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ” จอมบู๊สายแข็งจากร้อยเอ็ด ตั้งเป้าเอาถึงน็อกเพื่อสยบดรามาจากภาคแรก ในไฟต์รีแมตช์เดือดกับ “ป้อมเพชร พานทองยิม” คู่ปรับจอมแสบจากบุรีรัมย์ ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 126 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย. นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.

ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 120 เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา “ยอดเหล็กเพชร” ถูกประกบให้มาแย่งชิงชัยชนะแต้มที่ 2 ติดต่อกันกับ “ป้อมเพชร” ซึ่งขยับขึ้นมาชกในรุ่นฟลายเวตเป็นไฟต์ที่ 2 โดยรูปเกมในวันนั้นดำเนินไปอย่างดุเดือดสมฐานะคู่เอกตั้งแต่ยกแรกถึงยกสุดท้าย หลังทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันสาดอาวุธใส่กันชนิดแทบไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมีช่องได้พักหายใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อจบครบ 3 ยกแล้วไม่มีใครยอมร่วงลงไปกองกับพื้นเวที ทำให้ความหนักใจทั้งหมดต้องตกลงไปสู่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่นั่งให้คะแนนอยู่บริเวณขอบเวที ก่อนสุดท้ายกรรมการระดับโลกทั้ง 3 ท่านจะเสียงแตก ชี้ให้ “ยอดเหล็กเพชร” เป็นฝ่ายเบียดคว้าชัยไปอย่างสุดระทึกด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ (2 ต่อ 1 เสียง)

“เกมวันนั้น ยกแรกยังไม่ได้มีอะไรหวือหวา ต่างฝ่ายต่างแลกอาวุธกันตามจังหวะ แต่ผมทำได้มากกว่า เลยคิดว่ายกนี้เป็นของผม ส่วนยกสองต้องยอมรับว่าเป็นของป้อมเพชร เพราะผมโดนอาวุธเขาเข้าไปเยอะทีเดียว มาถึงยกสุดท้าย แม้จะพลาดโดนศอกจนมีแผลแตก แต่ช่วงท้ายยกผมได้จังหวะโต้กลับ ออกอาวุธชุดใหญ่ใส่จนทำให้เขามีอาการให้เห็น”

“ตอนรอฟังผลคะแนนก็ยอมรับว่าลุ้นเหมือนกัน เพราะรูปเกมสูสี ออกได้ทุกหน้า แต่ลึก ๆ ผมมั่นใจว่าตัวเองทำได้ดีกว่า และเชื่อว่า ป้อมเพชร ก็คงมั่นใจไม่ต่างกัน พอผลประกาศออกมาว่าผมเป็นฝ่ายชนะ ก็รู้สึกดีใจมากครับ เพราะนี่คืออีกหนึ่งไฟต์ที่ยากจริง ๆ และผมสามารถผ่านมาได้สำเร็จ”

ด้วยรูปเกมที่สูสี ประกอบกับการที่ “ป้อมเพชร” สามารถเรียกแผลแตกบริเวณหน้าผากของ “ยอดเหล็กเพชร” ได้ในยกสุดท้าย ทำให้หลังจบเกมจึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนมวย รวมถึงบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ที่มองว่า “ป้อมเพชร” สมควรเป็นฝ่ายชนะมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่า “ยอดเหล็กเพชร” รับรู้ถึงความคิดเห็นเหล่านั้นเป็นอย่างดี

“ผมทราบดีถึงกระแสวิจารณ์หลังจบการแข่งขันที่มีหลายคนมองว่า ป้อมเพชร สมควรเป็นฝ่ายชนะ แต่ส่วนตัวผมไม่ได้คิดอะไรมาก ผมเชื่อว่าที่กรรมการชูมือให้ผม เป็นเพราะผมสามารถทำให้เขามีอาการให้เห็นมากกว่า”

“หลังจบไฟต์ ในใจผมคิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงเราต้องได้เจอกันอีกแน่ เพราะรูปเกมออกมาสูสีมาก และสุดท้ายก็เป็นจริง รายการติดต่อมาให้รีแมตช์ทันที ผมเองก็ตอบตกลงแบบไม่ลังเล เพราะอยากกลับมาชกกับ ป้อมเพชร อีกครั้ง เพื่อเคลียร์ทุกข้อกังขาจากผลการแข่งขันครั้งแรกครับ”

ในศึกภาค 2 ครั้งนี้ “ยอดเหล็กเพชร” ยืนยันชัดเจนจะมาเดินบู๊แหลกตามสไตล์จอมทำลายล้างเหมือนกับภาคแรก พร้อมปักธงเก็บชัยชนะแต้มแฮตทริกด้วยการเผด็จศึก “ป้อมเพชร” ให้ได้สถานเดียว เพื่อจบทุกกระแสดรามาที่เกิดขึ้นจากภาคแรก

“การที่ ป้อมเพชร ปล่อยน้ำหนักขึ้นมาชกรุ่นฟลายเวต ทำให้เขาดูน่ากลัวขึ้นมาก อาวุธมีน้ำหนักกว่าเดิม ซึ่งก่อนชกผมก็ประเมินไว้แล้วว่าเขาต้องมาแบบแกร่งแน่นอน และก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ อาวุธทุกลูกของเขาอันตรายมากครับ”

“สำหรับผม ป้อมเพชร แทบไม่มีจุดอ่อนเลย ไฟต์ที่แล้วที่ผมชนะ ก็เพราะเป็นจังหวะบวกแลกกันล้วน ๆ ดังนั้นไฟต์นี้ผมยังคงวางแผนเดินบวกเหมือนเดิม แต่จะพยายามไม่ถอยรับมากเกินไปเหมือนช่วงยกสองของไฟต์ก่อน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างยังต้องรอดูบนเวทีว่าเขาจะปรับแก้เกมมาแบบไหน”

“ผมเชื่อว่า ป้อมเพชร จะต้องมาแกร่งและหนักกว่าเดิมแน่นอน รวมถึงรูปเกมน่าจะออกมาดุเดือดกว่าภาคแรก และถ้ามีจังหวะปิดเกม ผมก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจนและจบดรามาลงไปเลยครับ”

ติดตาม “ยอดเหล็กเพชร vs ป้อมเพชร” ศึก ONE ลุมพินี 126 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 26 ก.ย.นี้ ส่วนบัตรเข้าชมในสนามจำหน่ายหมดแล้ว หากท่านใดที่ซื้อบัตรไม่ทัน สามารถรับชมถ่ายทอดสดทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.