วันที่ 14 ก.ย.68 ไม่รู้จักบาป บุญคุณโทษ สันดานเดิมๆไม่เคยเปลี่ยน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายเปรมปรี ด้วงนิล อายุ 41 ปี เจ้าของร้านบ้านบึงมินิมาร์ท ปากทางเข้าวัดบ้านบึง ถ.พิชัยฯ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ว่ามีชายวัยกลางคน อายุประมาณ 40 ปี ได้เข้ามาซื้อน้ำแข็งจำนวน 5 บาท จากนั้นได้ดึงเงินจากต้นกฐินไปเป็นจำนวนเงิน 100 บาท โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านจับภาพไว้ได้ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นได้ว่า ชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 ปี สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีเทา สำพายกระเป่าสีดำ เข้ามาซื้อน้ำแข็งหลอด 5 บาท จากนั้นทางเจ้าของร้านได้เดินไปตักน้ำแข็งใส่ถุง และเมื่อสบโอกาส ทางเจ้าของร้านเผลอก้มลงตังน้ำแข็ง ชายคนดังกล่าวได้แสดงตนเป็นคนร้าย โดยได้ดึงเงินที่ต้นกฐินไปจำนวน 100 บาทแล้วรีบใส่ไว้ในกระเป่ากางเกง ก่อนที่จะรับน้ำแข็ง และจ่ายเงิน 5 บาทแล้วรีบเดินออกจากร้านและถีบจักรยานออกไป
ด้านนายเปรมปรี ด้วงนิล เจ้าของร้าน เล่าว่าหลังจากที่ตนเองกลับจากทำงาน และเข้ามาภายในร้าน ช่วงเวลา 11 โมง สังเกตเห็นว่าไม้ที่เสียบอยู่ต้นกฐินไม่มีเงิน จึงได้ให้แฟนของตนเองเช็คกล้องวงจรปิดภายในร้าน จึงได้รู้ว่าลูกค้าที่เข้ามาซื้อน้ำแข็งจำนวน 5 บาท ในช่วงที่แฟนของตนเองกำลังก้มตักน้ำแข็ง ลูกค้าคนดังกล่าวได้ดึงเงินออกไป ซึ่งเงินที่ต้นกฐินตนเองตั้งใจนำเงินไปทอดกฐินที่บ้านเกิด ที่จังหวัดศรีษะเกษ เพื่อนำไปสร้างพระแก้วมรกต ในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ซึ่งต้นกฐินเดิมที่มีเงินอยู่ประมาณ 1,500 บาท ซึ่งหลังจากมีคนร้ายมาดึงเงินไปตนเองจึงได้นำเงินออกไปบ้าง เพื่อที่จะไม่เป็นจุดล่อตาคนร้าย ซึ่งลักษณะของคนร้ายจะเป็นคนเร่ร่อน อยู่ซอยตรงข้ามกับทางร้าน และเข้ามาซื้อของที่ร้านเป็นประจำ ซึ่งตนเองคิดว่าคนร้ายน่าจะติดเหล้าและเสพยา
นายเปรมปรี กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมของคนร้ายเท่าที่ทราบ จะอาศัยความพิการที่มือซ้ายหงิกงอ เที่ยวปั่นจักรยาน ขอเงินคนไปทั่ว และยังมีพฤติกรรมชอบลักเล็กขโมยน้อย อยู่เป็นประจำ ซึ่งชาวบ้านร้านค้าในละแวกนี้โดนกันเป็นประจำ ซึ่งทางตนเองก็ยังไม่ได้ไปแจ้งความไว้