จากกรณีนายอนุชา หรือนุ อายุ 44 ปิ ก่อเหตุเผาบ้านของน.ส.เครือวัลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพยาบาล เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน บ้านเชียงพัง หมู่ 2 ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี จนบ้านวอด ซึ่งบ้านเป็นหลังเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน ถูกนายนุ ที่คลั่งยาทุบกระจกบุกเข้าไปเผาบ้านจนวอด นอกจากนี้ยังเผารถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีแดง ของ น.ส.เครือวัลย์ วอดไปด้วย หลังก่อเหตุ ตร.และชาวบ้านได้ติดตามจับกุมนายนุ ได้ ตร.แจ้งข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์” เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 ย่างเข้าวันที่ 10 ก.ย.68 ที่ผ่านมา
ขณะที่ น.ส.เครือวัลย์ พยาบาลสาวถึงกับเข่าทรุดเมื่อบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ และรถยนต์ที่รักและผูกพันถูกเผาวอด รู้สึกเสียดายบ้านและรถยนต์ที่เก็บหอมรอมริบกว่าจะสร้างบ้านเสร็จใช้เวลาหลายปี และรถยนต์ที่ผ่อนหมดแล้ว อีกทั้งเจ้าตัวรู้สึกจิตตกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก หลังพนักงานสอบสวน สภ.นาข่า เจ้าของคดีฯ พูดจาบั่นทอนจิตใจ และกล่าวหาว่าผู้เสียหายสัพเพร่าไม่ดูแลทรัพย์สินตัวเองให้ดี อยากจะร้องขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน โดยร้องเรียนไปยัง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี
ล่าสุด วันที่ 12 ก.ย.68 พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ต.นรุตม์ ศิริกัณหา สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เดินทางทางมาเยี่ยมให้กำลังใจแก่ น.ส.เครือวัลย์ เจ้าของบ้านพักที่ถูกนายนุ คลั่งยาเผาบ้านและรถยนต์จนไหม้ไปทั้งคัน พร้อมมอบเงินช่วยเหลือและเยียวยาให้กับพยาบาลจำนวนหนึ่ง พร้อมกันนี้ทางผกก.สภ.เมืองอุดรธานีได้แจ้งกับน.ส.เครือวัลย์ว่า ได้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนให้แล้วหลังจากเจ้าตัวรู้สึกไม่สบายใจถูกพูดจาบั่นทอนจิตใจ
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า แม่ของอนุชา บอกปัดรับผิดชอบที่ลูกชายก่อเหตุเผาบ้านและรถยนต์ของพยาบาลสาว แต่ชาวบ้านทราบข่าวว่าแม่นายอนุชา เตรียมยื่นประกันตัวลูกชาย 400,000 บาท เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวได้ลงชื่อจำนวน 40 คนไปยื่นต่อศาลจ.อุดรธานี เพื่อขอคัดค้านประกันตัวทันที โดยทุกคนห่วงว่า หากนายอนุชา ถูกประกันตัวออกมาจะแค้นและก่อเหตุซ้ำทำให้ชาวบ้านผวาไปตามๆ กัน โดยขณะนี้อยู่ขั้นตอนพิจารณาของศาลฯ ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่