วันที่ 11 ก.ย.68 "โบว์" น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊กข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา - Nuttaa Mahattana ระบุว่า...

ขอเสนอความเห็นในฐานะหนึ่งในคนที่รณรงค์เรื่องรัฐธรรมนูญมาเข้าปีที่ 10 แล้วนะคะ

ในวันนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในตอนหนึ่งว่า “รัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง” ก็เท่ากับศาลได้เพิ่มบทบัญญัติเพื่อตัดทางเลือกที่รัฐสภาจะเปิดทางให้ประชาชนสามารถเลือกตั้ง สสร. เพื่อมาร่างรัฐธรรมนูญได้ไปแล้ว

โจทย์จึงกลับมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ที่มีข้อตกลงกันก่อนโหวตนายกฯ ว่าถ้าศาลวินิจฉัยให้ประชามติ 3 ครั้ง ก็จะจัดให้มีการทำประชามติครั้งแรกภายในวันเลือกตั้ง และหากศาลวินิจฉัยให้ประชามติเพียง 2 ครั้ง ก็จะเริ่มดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญหมวด 15 (ม.256) เพื่อเปิดทางให้มี สสร.จากการเลือกตั้งมาร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะแก้บทบัญญัติดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนยุบสภา

ส่วนตัวเห็นว่า หากจะพยายามหาช่องซิกแซก เพื่อจะแก้รัฐธรรมนูญโดยใส่คำว่า “สสร.จากการเลือกตั้ง” เข้าไปให้ได้ในสี่เดือนนี้ ย่อมจะทำให้มีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกว่าสภากำลังทำสิ่งที่ขัดกับคำวินิจฉัย และอาจทำให้การแก้รัฐธรรมนูญสะดุด ไม่อาจทำประชามติได้ทันในวันเลือกตั้ง

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือการจัดทำประชามติครั้งที่ 1 ในวันเลือกตั้ง โดยถามประชาชนเพียงคำถามเดียวว่า “ท่านเห็นว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่”

ซึ่งในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคการเมืองก็สามารถนำเสนอแนวทางสำหรับกติกาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตนต้องการจะผลักดัน โดยเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายหาเสียงเลือกตั้งได้เลย

ในวันเลือกตั้ง ประชาชนก็จะได้แสดงออกถึงทั้งความต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และแนวทางการร่างกติกาแก้ไขรัฐธรรมนูญ(ม.256) ที่ต้องการส่งพรรคการเมืองไปผลักดัน ผ่านการโหวตสนับสนุนพรรคที่ตนพอใจ และเมื่อส.ส.ได้รับเลือกเข้าสภา ก็สามารถผลักดันต่อตามที่หาเสียงไว้ได้เลย

หากเลือกทางนี้ คือการทำประชามติครั้งแรกด้วยคำถามเดียว รัฐบาลก็จะประสบความสำเร็จกับภารกิจนี้ได้ในเวลาที่กำหนด ก่อนจะรอฟังฉันทามติจากประชาชนด้วยกันในวันเลือกตั้ง โดยปราศจากการแทรกแซงจากอำนาจอื่นๆอีกค่ะ