วัดดังพญานาคสายมู โบสถ์ร้อยล้านสุดอลังการที่อาจารย์เซียงมาสร้างร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาและชาวบ้าน ชาวบ้านเผย อ.เซียง มาสร้างโบสถ์จริง งบน่าจะประมาณ 100 ล้าน อ.เซียงฝันเห็นพญานาคที่วัดแห่งนี้จึงเดินทางมาทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักวัดนี้มาก่อน ส่วนเงินสร้างชาวบ้านก็ร่วมสร้างด้วยเชื่อเงินทุกบาทถวายวัดหมด หลักฐานทั้งหมดทางกรรมการวัดมีพร้อมให้ตรวจสอบ

วันที่ 10 ก.ย.2568  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดราม่าเรื่องราวของ อ.เซียง ปัณณวิชญ์ พิบูลธนาภิรมย์ สัมผัสโอบกอด-จูบ พระอุเชนทร์ แถมอัญเชิญไปทำพิธีที่บ้าน ทางกองปราบก็เตรียมลุยปมผู้วิเศษหยั่งรู้อีก ซึ่งทาง อ.เซียง ปัณณวิชญ์ อาจารย์ชื่อดังออกมาชี้แจงปมถูกโยงเป็นผู้วิเศษผู้หยั่งรู้พร้อมทั้งปฏิเสธเรื่องเงินบริจาคถึงวัดไม่ครบ เรื่องพระไม่ให้เข้าวัด และข้อสงสัยต่างๆนานา หลังเปิดบัญชีชื่อตัวเองรับเงินบริจาค

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสระมณี บ้านผักตบ ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี  ซึ่งวัดแห่งนี้ อ.เซียง ปัณณวิชญ์ เคยมาสร้างโบสถ์ที่วัดแห่งนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2559-2560 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาท (ตามที่ชาวบ้านอ้าง) เป็นโบสถ์สุดอลังการสายมู โดยรอบๆ โบสถ์ได้สร้างพญานาค 4 ตระกูล ได้แก่ ตระกูลสีทอง พญาวิรูปักษ์นาคราช, ตระกูลสีดำ พญากัณหาโคตรมะนาคราช, ตระกูลสีรุ้ง พญาฉัพพยาปุตตะนาคราช และตระกูลสีเขียว พญาเอราปถนาคราช ล้อมรอบกำแพงโบสถ์ได้อย่างงดงาม ผสมผสานรูปปั้นเทวดา องค์พิฆเนศ ต่างๆ นอกจากนี้แล้วพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้ประดิษฐานบนบุษบกยอดพระอุโบสถ วัดสระมณี เป็นพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับพระราชทาน จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกฯ ทรงประทานและมอบหมายให้ แก่ อ.ปัณณวิชญ์ พิบูลธนาภิรมย์ (อ.เชียง) และคณะผู้อัญเชิญมาประดิษฐานในวันที่ 16 เดือน มีนาคม 2557 บริเวณหน้าโบสถ์มีตัวย่อ คำว่า สญส  พระนามย่อ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกฯ  ภายในโบสถ์ก็จะมีองค์พ่อพระพุทธพิบูลธนาภิรมย์ เป็นองค์พระประธานที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากในเรื่องของการกราบไหว้ และขอพร มีขนาดหน้าตักกว้าง 60 นิ้ว ประดิษฐานภายในพระอุโบสถวัดสระมณี แต่ละวันก็ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงานของโบสถ์และกราบไหว้องค์พ่อพระพุทธพิบูลธนาภิรมย์ ซึ่งเป็นนามสกุลของอ.เซียงนั่นเอง

นางอี๊ด ชาวบ้านบ้านผักตบ บอกว่า วัดสระมณีก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2338 จนถึงปีนี้ก็ 230 ปี ต่อมามีชาวบ้านอพยพมาสร้างหมู่บ้านผักตบเมื่อปี พ.ศ. 2413 โดยชาวบ้านเมืองหนองหารที่มีอาชีพทำนา ชักชวนกันออกมาตั้งหมู่บ้านนา และบริเวณโดยรอบมีหนองน้ำอยู่และในน้ำก็มีผักตบขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงให้ชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านหนองผักตบ” ต่อมาหมู่บ้านผักตบเจริญเติบโตมาพอสมควร แล้วชาวบ้านจึงพร้อมกันขออนุญาตสร้างวัดขึ้นวัดหนึ่ง เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจและปฏิบัติธรรม และมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่ากันว่าบริเวณสระน้ำที่ตั้งวัด จะมีลูกแก้วมณีโชติลอยขึ้นมาจากริมขอบหนองน้ำ มีสีสันสดใสสวยงามมาก จึงให้นามวัดว่า “วัดสระแก้วมณีโชติ” หรือ “สระมณีโชติ” โดยมี พระอธิการบาน พุทธจิตโต เป็นเจ้าอาวาสวัดรูปแรก ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2488 จึงเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า “วัดสระมณี” และวัดนี้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่จากนั้นเป็นต้นมา โดยชาวบ้านเชื่อว่า สระมณีแห่งนี้เชื่อมโยงจากหนองหาน-กุมภาวปีมาสระมณีและเชื่อมโยงไปคำชะโนด ซึ่งเป็นดินแดนพญานาค

ส่วนโบสถ์ที่เห็น จริงๆ แล้วชาวบ้านจะร่วมกันบูรณะอยู่แล้ว แต่ช่วงนั้นอ.เซียง ท่านได้เข้ามา ท่านบอกว่า ท่านฝันเห็นวัดแห่งนี้ ซึ่งท่านไม่เคยมา ท่านก็มาตามฝันตามรอยพญานาค พญานาคให้ท่านมาสร้างโสบถ์ และร่วมสร้างโบสถ์ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาและชาวบ้าน เห็นว่า งบสร้างประมาณ 100 ล้านบาท  ซึ่งจริงๆ แล้วชาวบ้านจะร่วมกันบูรณะอยู่แล้ว อ.เซียงก็เข้ามาพอดี ส่วนที่มีข่าวอ.เซียงให้เงินหลายวัดไม่ครบนั้น ท่านมาสร้างวัดนี้หมดเงินไปเยอะส่วนตัวเชื่อว่า อ.เซียงท่านให้เงินและสร้างโบสถ์แห่งนี้หมดเลย