ผู้ว่าฯอ่างทอง ติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่ อ.เมือง กำชับเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักร-กำลังพล พร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที  

วันที่ 10 ก.ย.68 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง บริเวณสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ, ประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง วัดสนามชัย, และจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณโรงพยาบาลอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมของหน่วยงาน  พร้อมด้วยนางศุทธิกานต์ วงศ์สถิตจิรกาล ประธานแม่บ้านมหาดไทย/นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง นายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง ท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองกล่าวว่า ที่ผ่านมากรมชลประทานได้ทยอยปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ในอัตรา 1,900 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับมีฝนตกปริมาณมากในพื้นที่เหนือเขื่อน ส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่นอกคันกั้นน้ำของจังหวัดอ่างทอง ขณะนี้มีบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่บริเวณติดกับแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบใน 3 อำเภอ คือ ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมกประมาณ 10 ครัวเรือน, อำเภอวิเศษชัยชาญ ประมาณ 278 ครัวเรือน ขณะที่อำเภอไชโยยังได้รับผลกระทบในพื้นที่การเกษตร ประมาณ 700 ไร่ 

ทางด้านนายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กว่า 6.1 ตารางกิโลเมตร มีโรงสูบน้ำอยู่ 9 โรง โดยจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ วัสดุอุปกรณ์ และกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง พร้อมทั้งเร่งขุดลอกท่อระบายน้ำและคลองสายหลัก เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน หากมีฝนตกหนักหรือมวลน้ำไหลหลากในช่วงฤดูนี้ ซึ่งช่วงนี้มวลน้ำที่ไหลมาเกิน 8 เมตรแล้ว ถือว่าอยู่ในช่วงวิกฤติ ต้องมีการจัดเวรยามอย่างใกล้ชิด และได้รับการสนับเครื่องสูบน่ำจากทางชลประทานอ่างทองอีก 3 เครื่องคิดว่าน่าจะเอาอยู่  

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดอ่างทอง ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับพื้นที่เขตเศรษฐกิจ เช่น เขตเทศบาลเมืองอ่างทอง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากเทศบาลเมืองอ่างทองและสำนักงานชลประทาน เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรของ ปภ. รวมถึงกำลังพลทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ที่เตรียมความพร้อมแล้ว 100% พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดเหตุทันที