พ่อเมืองประจวบฯ ออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ในพื้นที่หัวหิน เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาที่ดิน ไฟฟ้า แหล่งน้ำให้ประชาชน
วันที่ 10 ก.ย.68 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” หรือโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน นายประยูร ขันแก้ว นายก อบต.บึงนคร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ และประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี ในการนี้ พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี ได้กล่าวสัมโมทนียกถาแก่พุทธศาสนิกชน เตือนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันดูแลเฝ้าระวังเรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติด การพนัน ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ชีวิตตกต่ำ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กล่าวเปิดกิจกรรม พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่ 2 โรงเรียน มอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้นำท้องถิ่น และร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคจำนวน 300 ชุดให้แก่ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ประกอบด้วยสิ่งของอุปโภคบริโภคจาก พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ จำนวน 100 ชุด สิ่งของอุปโภคบริโภคจากสภากาชาดไทย จำนวน 100 ชุด และสถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติฯ 100 ชุด พร้อมมอบทุนการศึกษาจากกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ให้แก่นักเรียนจำนวน 7 ทุน ทุนละ 1,200 บาท ในการนี้ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ มีเมตตามอบอุปกรณ์เครื่องครัว ข้าวสาร ให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ จำนวน 2 ราย พร้อมเงินดำรงชีพรายละ 2,000 บาท
โดยโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ในวันนี้มีหน่วยงานภาครัฐจำนวน 46 หน่วยงาน ร่วมให้บริการประชาชนในด้านต่างๆ เช่น การให้คำปรึกษาช่วยเหลือด้านกฎหมาย การแก้ไขปัญหาการเกษตร การลงทะเบียนผู้ว่างงาน บริการตัดผม บริการทำหมันสุนัขและแมว การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด การออกโรงทาน การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลหัวหิน ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป พร้อมการรับบริจาคโลหิตจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ โดยมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมรับบริการอย่างคึกคัก
นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า ต.บึงนคร อ.หัวหิน มีจำนวน 12 หมู่บ้าน ประชากร 2,430 ครัวเรือน 5,068 คน เป็นพื้นที่ติดกับชายแดนไทย-เมียนมา ปัญหาสำคัญในพื้นที่คือเรื่องของการไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่ความปลอดภัยทางทหาร ปัจจุบัน ประชาชนในพื้นที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ รวมถึงยังมีปัญหาเรื่องของน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ปัญหาเส้นทางคมนาคมที่ไม่สะดวก ทุกปัญหาเป็นเรื่องสำคัญ เป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ภาครัฐต้องเข้ามาดูแลแก้ไข เบื้องต้น ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เดินทางไปพร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยงานเพื่อหารือร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาที่ กทม. หาแนวทางแก้ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.บึงนคร ซึ่งเป็นพื้นที่ความปลอดภัยทางทหาร โดยเรื่องของประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 9 ที่ขณะนี้ถูกฟ้องขับไล่ จำนวน 34 ราย จะติดตามช่วยแก้ปัญหาให้เป็นรายกรณี ส่วนเรื่องความต้องการในพื้นที่ ทั้งการก่อสร้างปรับปรุงเส้นทางคมนาคม พัฒนาแหล่งน้ำ รวมถึงการติดตั้งเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในสถานที่หรือจุดที่จำเป็นต่อการสัญจรเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน จะเร่งบรรจุแผนงานโครงการ และหางบประมาณมาดำเนินการให้โดยเร่งด่วน