วันที่ 9 ก.ย.68 นายวรวุฒิ เนียมน้อย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก และนายนพกูล พิมพ์ดี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน พร้อมด้วยหัวหน้าฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีเปิดโครงการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรประมงในแหล่งน้ำสำคัญ “ทุ่งบางระกำ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ วัดแม่ระหัน หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และ ดร.ฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และ ตัวแทนชุมชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม

ภายในงาน มีการปล่อยพันธุ์ปลาที่เพาะพันธุ์จากชุดเพาะฟักไข่ปลาแบบเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) จำนวน 5,000,000 ตัว และพันธุ์ปลาไทยอีก 5,000,000 ตัว รวมทั้งสิ้น 10,000,000 ตัว  ลงสู่แหล่งน้ำทุ่งบางระกำ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ และส่งเสริมรายได้เสริมแก่เกษตรกรในพื้นที่ทุ่งบางระกำ “แก้มลิงธรรมชาติ” ตัวอย่างของการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

ทุ่งบางระกำ ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบของการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อการบริหารจัดการน้ำในรูปแบบ “แก้มลิงธรรมชาติ”  ภายใต้แนวคิดของ “โครงการบางระกำโมเดล” ซึ่งเป็นการปรับปฏิทินการเพาะปลูกในพื้นที่กว่า 327,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย และอุตรดิตถ์ เพื่อให้สามารถใช้เป็นพื้นที่รับน้ำหลากและหน่วงน้ำในฤดูฝน จำนวน 265,000 ไร่ โดยเกษตรกรจะเริ่มเพาะปลูกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน และเก็บเกี่ยวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 สิงหาคม ก่อนเริ่มเข้าสู่ช่วงการรับน้ำ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม – 30 พฤศจิกายน ของทุกปี พื้นที่ทุ่งบางระกำจะงดทำการเพาะปลูก เพื่อเปิดทางให้กลายเป็นแหล่งรับน้ำหลากอย่างเต็มรูปแบบ ในพื้นที่ 265,000 ไร่ สามารถรองรับน้ำได้สูงสุดถึง 400 ล้านลูกบาศก์เมตร  โดยข้อมูลล่าสุด ณ ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำไหลเข้าทุ่งแล้วกว่า 71% หรือประมาณ 284 ล้านลูกบาศก์เมตร

การปล่อยพันธุ์ปลาในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำธรรมชาติ และช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีแหล่งอาหารที่ยั่งยืน ตลอดช่วงที่พื้นที่ใช้เป็นแก้มลิงธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้เสริมจากการจับปลา หรือแปรรูปเพื่อจำหน่ายในชุมชน โครงการดังกล่าวนับเป็นการดำเนินงานแบบบูรณาการ ระหว่างกรมชลประทาน กรมประมง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการจัดการทรัพยากรน้ำควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน