การเผชิญหน้ากับภาระหนี้สินจำนวนมากอาจทำให้หลายคนรู้สึกหนักใจ และกังวลจนหาทางออกไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า สถานการณ์นี้ไม่ใช่ทางตัน ทุกปัญหาสามารถจัดการได้หากมีการวางแผนที่ดี และเริ่มต้นลงมือทำอย่างจริงจัง บทความนี้ได้รวบรวมวิธีปลดหนี้ที่เป็นแนวทางปฏิบัติได้จริง เพื่อเป็นแผนที่นำทางให้ทุกคนสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและเริ่มต้นสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคงได้อีกครั้ง
สำรวจสถานะหนี้สินของตัวเองให้ชัดเจนก่อนวางแผนปลดหนี้
ก่อนที่จะเริ่มจัดการหนี้สิน การทำความเข้าใจภาพรวมสถานการณ์การเงินของตัวเองอย่างถ่องแท้คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เพราะจะช่วยให้เรามองเห็นปัญหา และวางแผนแก้ไขได้อย่างตรงจุด
1. ลิสต์รายการหนี้สินทั้งหมดที่มี
รวบรวมข้อมูลหนี้สินทุกรายการที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อประเภทอื่น ๆ จดบันทึกยอดหนี้คงเหลือ อัตราดอกเบี้ย และยอดผ่อนชำระต่อเดือนของแต่ละรายการออกมาให้ชัดเจน การทำเช่นนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมของภาระหนี้ทั้งหมด และทำให้รู้ว่าหนี้ก้อนไหนมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ควรให้ความสำคัญในการจัดการก่อนเป็นอันดับแรก
2. ทำความเข้าใจรายรับ-รายจ่ายของตัวเอง
นอกจากการสำรวจรายการหนี้แล้ว การทำความเข้าใจกระแสเงินสดของตัวเองก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ลองทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างง่าย ๆ เพื่อให้เห็นว่าในแต่ละเดือนมีรายได้เข้ามาเท่าไร และมีค่าใช้จ่ายจำเป็นอะไรบ้าง ข้อมูลส่วนนี้จะทำให้ประเมินได้ว่ามีเงินคงเหลือที่สามารถนำไปชำระหนี้เพิ่มเติมได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนขั้นต่อไป
5 วิธีปลดหนี้ เปลี่ยนภาระหนักให้เบาลง
เมื่อเข้าใจสถานการณ์การเงินของตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือปฏิบัติตามแนวทางที่จะช่วยจัดการภาระหนี้ให้เบาลง โดยในมุมมองของ Krungsri The COACH การจัดการหนี้สินไม่ใช่การเดินตามเส้นทางเดียว แต่มีเครื่องมือ และแนวทางที่หลากหลายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ การรวมหนี้ หรือการรีไฟแนนซ์ สิ่งสำคัญคือการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเองที่สุด เพื่อเปลี่ยนภาระหนักให้เป็นเป้าหมายที่สามารถไปถึงได้จริง ซึ่งเราได้รวม 5 แนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อจัดการปัญหาเป็นหนี้เยอะหาทางออกไม่ได้ให้คลี่คลายลงมาให้แล้ว แต่ละวิธีจะความน่าสนใจอย่างไร ไปดูกัน
1. เจรจากับเจ้าหนี้โดยตรง (การปรับโครงสร้างหนี้)
ขั้นตอนแรกที่ควรทำเมื่อรู้สึกว่าเริ่มผ่อนชำระไม่ไหว คือการเข้าไปปรึกษากับธนาคารหรือสถาบันการเงินเจ้าหนี้โดยตรง เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน ซึ่งเรียกว่า การปรับโครงสร้างหนี้ โดยอาจเป็นการขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้นเพื่อลดค่างวดต่อเดือน หรือการขอลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยลดภาระ และทำให้ยังสามารถชำระหนี้ต่อไปได้
2. รวมหนี้ก้อนใหญ่ไว้ที่เดียว
สำหรับคนที่มีหนี้สินหลายก้อนจากหลายสถาบันการเงิน การรวมหนี้ เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดี วิธีนี้คือการขอสินเชื่อก้อนใหม่จากสถาบันการเงินแห่งเดียว เพื่อนำไปปิดยอดหนี้เดิมทั้งหมดที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า แล้วผ่อนชำระกับเจ้าหนี้รายใหม่เพียงที่เดียว ข้อดีคือช่วยให้การจัดการง่ายขึ้น ลดความสับสน และมักจะทำให้อัตราดอกเบี้ยโดยรวม และยอดผ่อนต่อเดือนลดลง
3. การรีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์ เป็นวิธีที่คล้ายกับการรวมหนี้ แต่มักใช้กับหนี้ก้อนใหญ่ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น หนี้บ้านหรือหนี้รถยนต์ โดยเป็นการขอสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินอื่นที่เสนอเงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง เพื่อนำมาปิดสินเชื่อเดิม ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไปได้จำนวนมากตลอดอายุสัญญา
4. ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม
นอกจากการจัดการกับหนี้สินโดยตรงแล้ว การปรับพฤติกรรมการใช้เงินก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรสำรวจค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และตัดรายการที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับโปะหนี้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมจากความถนัดหรืองานอดิเรก เพื่อนำเงินที่ได้เพิ่มมาเร่งปิดยอดหนี้ให้หมดเร็วยิ่งขึ้น
5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางออก
หากลองทำตามวิธีต่าง ๆ แล้วยังรู้สึกว่าสถานการณ์หนี้สินยังคงเป็นเรื่องยากเกินกว่าจะจัดการได้ด้วยตัวเอง การขอคำปรึกษาจากหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะ เช่น คลินิกแก้หนี้ หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และช่วยหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล
สรุปบทความ
การปลดหนี้เป็นเส้นทางที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่น และวินัยทางการเงิน แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจสถานการณ์ของตนเองอย่างแท้จริง และเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับเจ้าหนี้ การรวมหนี้ หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนภาระหนี้ก้อนโตให้กลายเป็นศูนย์ และนำคุณไปสู่อิสรภาพทางการเงินที่ตั้งใจไว้ได้ในที่สุด