ภาพชีวิตหลังเกษียณที่ได้ใช้เวลาทำในสิ่งที่รักอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน คือความฝันของคนยุคใหม่จำนวนมาก เพื่อเปลี่ยนความฝันนั้นให้เป็นจริงเร็วขึ้น การวางแผนเกษียณสไตล์ Fire Retirement จึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจ และเป็นทางลัดที่ช่วยให้คุณไปถึงเส้นชัยที่เรียกว่า “อิสรภาพทางการเงิน” ได้เร็วกว่าที่เคยคิด

FIRE Movement คืออะไร ทำไมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ?

FIRE (Financial Independence, Retire Early) คือ แนวคิดการสร้างอิสรภาพทางการเงินเพื่อเป้าหมายการเกษียณอายุก่อนกำหนด หัวใจสำคัญของแนวทางนี้ไม่ใช่แค่การหยุดทำงาน แต่คือการมีสินทรัพย์หรือรายได้แบบ Passive Income ที่มากพอจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในชีวิต ทำให้สามารถเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้โดยไม่ต้องผูกติดกับงานประจำอีกต่อไป คนกลุ่มนี้จึงมุ่งเน้นการออม และลงทุนอย่างเข้มข้นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายทางการเงินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

จากข้อมูลของ Krungsri The COACH แหล่งรวมความรู้เรื่องการเงิน และการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่าเหตุผลที่แนวคิดนี้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพราะสอดคล้องกับค่านิยมที่รักความเป็นอิสระ กล้าคิดกล้าแสดงออก และต้องการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง พวกเขาไม่ได้มองว่าการทำงานหนักจนถึงอายุ 60 คือความสำเร็จเพียงรูปแบบเดียว แต่มองหาแนวทางสร้างความมั่นคงทางการเงินให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้มีเวลาออกไปทำในสิ่งที่รัก และค้นหาตัวเองในวันที่ร่างกายยังแข็งแรงอยู่

รู้จัก “กฎ 4%” และ “กฎ 25” หัวใจสำคัญของการวางแผนเกษียณแบบ FIRE

หัวใจของการคำนวณเป้าหมายสู่ Fire Retirement อาศัยหลักการสำคัญ 2 ข้อที่ทำงานร่วมกัน

กฎ 25” คือเครื่องมือในการหาเป้าหมายเงินเก็บก้อนสุดท้าย โดยคำนวณจากค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะใช้ต่อปีคูณด้วย 25 เช่น หากประเมินว่าต้องใช้เงินปีละ 400,000 บาท เป้าหมายเงินเก็บทั้งหมดคือ 10 ล้านบาท

เมื่อไปถึงเป้าหมายแล้ว “กฎ 4%” จะเข้ามาทำหน้าที่บริหารเงินก้อนนั้น โดยอนุญาตให้ถอนเงินออกมาใช้ได้ไม่เกินปีละ 4% ซึ่งเป็นอัตราที่ปลอดภัย และเชื่อว่าจะทำให้เงินต้นไม่หมดไปก่อนเวลาอันควร

เริ่มต้นวางแผนเกษียณแบบ FIRE ฉบับทำได้จริง

การจะไปให้ถึงเป้าหมาย Early Retire ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หากเริ่มต้นลงมือทำอย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอนสำคัญที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ทันที

1. กำหนดเป้าหมาย FIRE ของตัวเอง (Find Your FIRE Type)

ก่อนจะเริ่มเก็บเงิน สิ่งสำคัญคือการตอบตัวเองให้ได้ว่าไลฟ์สไตล์หลังเกษียณที่ต้องการเป็นแบบไหน เพื่อกำหนดเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้หลายรูปแบบ เช่น

  • Lean FIRE : สำหรับสายมินิมอลที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ทำให้ใช้เงินเป้าหมายไม่สูงมาก และสามารถเกษียณได้เร็วที่สุด
  • Fat FIRE : สำหรับสายที่ต้องการใช้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายหลังเกษียณ ยังคงท่องเที่ยว และทำกิจกรรมที่ใช้เงินได้เต็มที่ จึงต้องมีเงินเก็บก้อนใหญ่กว่าแบบอื่น
  • Barista FIRE : เป็นแนวทางผสมผสาน คือเกษียณจากงานประจำ แต่ยังทำงานพาร์ทไทม์หรืองานที่ชอบเพื่อสร้างรายได้เสริม และรับสวัสดิการบางอย่าง โดยไม่ต้องกดดันเท่าเดิม

2. ออมให้สูง-ใช้ให้น้อย ปรับไลฟ์สไตล์สู่เป้าหมาย

แกนหลักที่ขาดไม่ได้ของเส้นทาง FIRE คือวินัยทางการเงินขั้นสูงสุด โดยเปลี่ยนสมการการออมจาก “รายได้ - รายจ่าย = เงินออม” มาเป็น “รายได้ - เงินออม = รายจ่าย” หมายถึงการตั้งเป้าออมก่อนใช้ ซึ่งชาว FIRE ส่วนใหญ่มักตั้งเป้าออมเงินให้ได้สูงถึง 50-70% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งทำได้โดยการควบคุมรายจ่ายอย่างเข้มงวด และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปอย่างจริงจัง

3. สร้างรายได้เพิ่ม และเร่งสปีดการลงทุน

ลำพังการประหยัดเพียงอย่างเดียวอาจไม่เร็วพอที่จะไปถึงเป้าหมายได้ทันเวลา การสร้างรายได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นงานเสริม ธุรกิจออนไลน์ หรือการรับงานฟรีแลนซ์ ควบคู่ไปกับการนำเงินออมไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เงินทำงาน และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเร่งสปีดให้คุณไปถึงเป้าหมายอิสรภาพทางการเงินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ข้อดีของการวางแผนเกษียณแบบ FIRE

การวางแผนเกษียณด้วยแนวทางนี้มีข้อดีที่น่าสนใจหลายประการ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้หลายคนมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย

  • มีอิสรภาพทางการเงินเร็วกว่ากำหนด : ข้อดีที่ชัดเจนที่สุดคือการได้เป็นเจ้าของเวลาของตัวเองเต็มที่ สามารถเลือกทำในสิ่งที่รัก และมีความหมายกับชีวิตได้โดยไม่ต้องรอถึงอายุ 60 ปี
  • สร้างวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่ง : กระบวนการทั้งหมดบังคับให้คุณต้องบริหารจัดการเงินอย่างเชี่ยวชาญ ทักษะนี้จะติดตัวไปตลอด และเป็นรากฐานความมั่นคงของชีวิต
  • ลดความเครียดเรื่องงานในระยะยาว : การมีเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้มีกำลังใจในการทำงาน และรู้ว่าสามารถเลือกที่จะหยุดพักจากงานที่กดดันได้เมื่อไปถึงเป้าหมาย

ข้อควรระวังของการวางแผนเกษียณแบบ FIRE

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่ Fire Retirement ก็มีความท้าทาย และข้อควรพิจารณา เพื่อให้การวางแผนเป็นไปอย่างรอบคอบ

  • ความกดดัน และความเครียดสูง : การประหยัดอย่างสุดขั้ว และการโหมทำงานหนักอาจทำให้ชีวิตในปัจจุบันขาดความสุข และเกิดภาวะหมดไฟได้ง่าย
  • ความเสี่ยงด้านการลงทุน : การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย ความผันผวนของตลาดอาจทำให้แผนการเกษียณล่าช้ากว่าที่คาดไว้
  • ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดในอนาคต : ระยะเวลาหลังเกษียณที่ยาวนานขึ้น เพิ่มโอกาสในการเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ปัญหาสุขภาพ หรือภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่ประเมินไว้

สรุปบทความ

FIRE Movement คือแนวคิดการวางแผนเกษียณที่ท้าทาย และต้องอาศัยวินัยอย่างสูง แต่ก็เป็นเป้าหมายที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าสุดท้ายแล้วบางคนอาจไม่ต้องการ Early Retire อย่างเต็มรูปแบบ แต่หลักการสำคัญของ FIRE ทั้งการออมในอัตราสูง การใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล และการเร่งสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุน ล้วนเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยยกระดับสุขภาพทางการเงิน และนำทุกคนเข้าใกล้อิสรภาพทางการเงินได้เร็วยิ่งขึ้น