‘อนุทิน’ลั่นเป็น ‘นายกฯ’ไม่ติดหนี้บุญคุณใครนอกจากประชาชน ยอมรับนั่งควบเก้าอี้ ‘รมว.มหาดไทย’เองเพื่อแก้ปัญหาให้มีความรวดเร็ว ประกาศมาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหา 4 ข้อ ยืนยันไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมระบุที่ผ่านมาถูกกลั่นแกล้ง ชี้ทุกอย่างกางบนโต๊ะโปร่งใสไม่ยัดเยียดปรุงแต่ง สั่งครม. ทำงานไม่มีวันหยุด พร้อมย้ำยุบสภา 4 เดือนตามข้อตกลง
วันที่ 7 ก.ย.2568 เวลา 12.15 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ตัวกระผมอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนยืนอยู่ตรงนี้ด้วยความตระหนักดีกว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ ในวันนี้อาจมีข้อจำกัดหลายด้านในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตามขอให้ความมั่นใจต่อประชาชนว่าตนและครม.ทุกคนจะมุ่งมั่นทุ่มเททำงาน ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ใช้ทุกสิ่งอย่างที่มีอยู่ทั้งกำลังกาย กำลังสมอง ให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่างๆ เร็วที่สุด .
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความมั่นใจผ่านการลงคะแนนเสียงของ สส. โดยเฉพาะ สส.พรรคประชาชนที่สนับสนุนให้มาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เสียสละให้ประเทศมีทางออก หลังจากลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปอยู่เป็นฝ่ายตรวจสอบและขอบคุณสส.พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และ สส.ที่สนับสนุนให้รัฐบาลของตนกำลังจะเกิดขึ้น เพื่อมารับใช้ประชาชน ด้วยเวลาที่มีอยู่เราจะเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ที่เป็นภัยคุกคามและส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ได้แก่ 1.ปัญหาเศรษฐกิจ จะเร่งดำเนินมาตรการลดรายจ่ายค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ต่างๆ แก่ประชาชน และผู้ประกอบการ แก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย จะหามาตรการต่างๆ ทั้งด้านกฎหมายและการอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเสริมสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการและประชาชน รวมถึงทำให้รายได้ชุมชนท้องถิ่น มีความมั่นคงแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า 2.ปัญหาความมั่นคง จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพเพื่อลดการสูญเสียของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ แต่ประเทศไทยต้องยึดหลักการที่ต้องไม่มีวันเสียดินแดน แผ่นดิน ของเราแม้แต่ตร.ซม.เดียว คนไทยต้องไม่เสียประโยชน์ และดำเนินชีวิตด้วยความเป็นปกติสุข รัฐบาลจะเร่งชดเชยเยียวยาแก่ประชาชนผู้ประสบภัย ที่ผ่านมาแม้จะล่าช้าไปบ้าง แต่รัฐบาลนี้จะชดเชยค่าเสียหายต่างๆ แก่ประชาชน ในจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับกัมพูชา ด้วยความรวดเร็วครอบคลุมทุกหลังเรือน
นายอนุทิน กล่าวอึกว่า 3.ปัญหาภัยธรรมชาติ จะเร่งต่อยอดทำระบบเตือนภัย ที่เคยทำมาแล้วในสมัยที่ตนเป็น รมว.มหาดไทย หวังว่าในช่วงที่ตนไปพักร้อนสักพักหนึ่งทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) คงไม่หยุดจัดหาระบบเตือนภัยและป้องกันภัย และการเยียวยาฟื้นฟูแก่ประชาชน จะเร่งชดเชยค่าเสียหายแก่ประชาชนที่ประสบภัยธรรมชาติ อย่างรวดเร็วทันท่วงทีสมเหตุผสมผลและเป็นธรรม ตนคุ้นเคยกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี ในสมัยที่เป็น รมว.มหาดไทยจะเข้ามาดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะจะควบตำแหน่งรมว.มหาดไทยด้วย ดังนั้นปัญหาต่างๆ จะไม่หยุดชะงัก หรือติดอุปสรรค เชื่อมั่นว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีจากข้าราชการทุกหน่วยงาน ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังมีความร่วมมือจากเครือข่ายหน่วยงานต่างๆ อีก ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายความมั่นคง เรื่องปัญหาความร่วมมือไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เพื่อตอบสนองประชาชน มั่นใจในความสามารถของตน จะเชื่อมต่อความสัมพันธ์และประสานงาน เร่งทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ประชาชน
นายอนุทิน กล่าวต่อไปอีกว่า 4.ภัยสังคม จะเร่งปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ แสกมเมอร์และการพนันออนไลน์อย่างจริงจัง สร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ เพื่อกำจัดภัยสังคมทุกรูปแบบ ขอให้มั่นใจว่าตนมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ไม่ได้มาด้วยบุญคุณของใคร ยกเว้นบุญคุณของประชาชนชาวไทยโดยผ่านผู้แทนราษฎร ดังนั้นมีผู้ที่จะต้องตอบแทนพระคุณคนเดียวคือประชาชน
นายอนุทิน กล่าวว่า การแก้ปัญหาเหล่านี้ขอให้มั่นใจว่าจะต้องได้รับความร่วมมือการประสานงานเพื่อให้เจตนารมณ์ของตน ขับเคลื่อนไปด้วยประสิทธิภาพความรวดเร็ว ปราศจากอุปสรรค มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ของตนและครม. จะไม่มีเวลาทดลองงาน ต้องคัดสรรมาอย่างดี เพื่อที่ทุกคนเมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วต้องปฏิบัติงานได้ทันทีอย่างมีประสิทธิภาพ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ความกังวลของประชาชนในเรื่องของความกังขาทั้งเรื่องจริยธรรมและกฎหมาย ที่บางครั้งพวกตนก็ไม่ได้รับความยุติธรรมถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย แต่วันนั้นได้ผ่านไปแล้ว สิ่งที่เป็นความกังวลใจของประชาชนขอยืนยันว่าตนและรัฐบาลจะทำงานยึดความถูกต้องของกฎหมายเป็นหลักเท่านั้น จะไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ตามที่มีผู้ห่วงใย จะให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงานด้วยกลไกที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ความยุติธรรมต้องมีให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ได้ยัดเยียดปรุงแต่งหรือกลั่นแกล้งใส่ร้ายอย่างที่เคยมีผู้ปฏิบัติมา นอกจากไม่แทรกแซงแล้ว จะเร่งรัดเปิดเผยให้กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างอยู่บนโต๊ะ สามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งที่สงสัย อะไรผิดก็จะดำเนินการทันที ตามกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่ ขอให้ประชาชนติดตามการทำงานของตน
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนสิ่งที่ สส.พรรคประชาชนห่วงใย ที่อยู่ในบันทึกข้อตกลงซึ่งรัฐบาลจะมีจุดมุ่งหมายเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ ซึ่งจะมีกระบวนการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในเร็วๆ นี้ และหลังจากนั้นตนจะยุบสภา ภายในกรอบเวลา 4 เดือน ตามที่มีข้อตกลง เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน แม้จะมีเวลาไม่มากแต่มั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย จะทุ่มเททำงานเต็มที่ ดังนั้นเวลาที่มีอยู่ 4 เดือน ตนและครม. จะไม่มีวันหยุด ไม่มีพรรคร้อน ถ้าเป็นไปได้ต้องไม่มีการเจ็บป่วย ไม่มีวันที่จะบอกว่าพักผ่อนกับครอบครัว ยกเว้นพักผ่อนตามความต้องการของร่างกาย เชื่อว่า 4 เดือน คนที่มาเป็น ครม.ของตนจะมีสุขภาพยืนหยัดทำงานให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่ เราจะเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ให้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตในระยะเวลาที่มีอยู่ และจะสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อให้รัฐบาลชุดต่อไปมาสานต่อการทำงานให้ประชาชนมีความอยู่ดีมีสุข ด้วยความยั่งยืนตลอดไป รวมทั้งจะสร้างความรักสามัคคีของคนในชาติ เพื่อร่วมเป็นพลังพัฒนาประเทศไทย
“ผมจะไม่ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนที่มอบความไว้วางใจให้ต้องสูญเปล่า จะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถทำงานตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีต่อสถาบันและด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจรับใช้ประชาชนให้สมกับความไว้วางใจที่ท่านมีให้แก่ผมในการเป็นนายกฯ ในวันนี้” นายอนุทินกล่าว