สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 7 กันยายน 2568 ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยเตือนประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เตรียมพร้อมรับมือฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยคาดการณ์อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส และสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์ฝนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (สิ้นสุดเวลา 07.00 น.) พื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยตรวจพบปริมาณฝนสูงสุดที่สำนักงานเขตทวีวัฒนา 158.0 มิลลิเมตร ตามมาด้วยสถานีสูบน้ำเทเวศร์ เขตพระนคร 134.5 มิลลิเมตร และสถานีสูบน้ำแสนแสบ-คลองตัน เขตวัฒนา 104.5 มิลลิเมตร ซึ่งส่งผลให้มีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำบนถนนสายหลักจำนวน 32 รายการ แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจนสถานการณ์กลับสู่สภาวะแห้งเป็นปกติแล้วทั้งหมด
ในภาพรวมของประเทศ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และสูงกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม พายุโซนร้อน “ตาปะฮ์” (TAPAH) ที่คาดว่าจะขึ้นฝั่งประเทศจีนในวันพรุ่งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
ด้านการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ และลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานการณ์ยังคงควบคุมได้ โดยระดับน้ำในแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออก บริเวณประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้), แสนแสบ (มีนบุรี) และลาดกระบัง ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติและต่ำกว่าระดับวิกฤติ ขณะที่ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำต่าง ๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่นครสวรรค์ (1,936 ลบ.ม./วินาที) จนถึงเขื่อนเจ้าพระยา (1,500 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำยังคงต่ำกว่าตลิ่งอยู่พอสมควร นอกจากนี้ ค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสถานีสูบน้ำสำคัญต่าง ๆ ยังอยู่ในระดับต่ำมาก ไม่ส่งผลกระทบต่อการเกษตรแต่อย่างใด