วันที่ 5 กันยายน 2568  ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า  เมื่อเวลา09.00น. นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้านภารกิจ เดินทางเข้าพรรคเพื่อยื่นใบลาออกต่อเจ้าหน้าที่พรรค ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์

โดยในหนังสือลาออกดังกล่าวระบุว่า “เรื่องขอลาออกจาก การเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และทุกตำแหน่งในพรรค เรียนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระผมนายนริศ ขำนุรักษ์ สมาชิกประชาธิปัตย์เลขที่ 40507150 ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และทุกตำแหน่งในพรรคด้วยเหตุผลที่ต้องไปทำภารกิจอื่นจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและอนุมัติลงชื่อนายนริศ ขำนุรักษ์ให้มีผลนับแต่วันนี้เป็นต้นไป”

โดยเจ้าหน้าที่พรรคได้รายงานต่อนายธนิตพล ไชยนันท์ ผอ.พรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ทราบแล้ว 

ทั้งนี้ การลาออกของนายนริศ เกี่ยวพันกับกรณีนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้โหวตลงมติสวนกับมติพรรค ปชป. ในการเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ขัดต่อมติของที่ประชุมสส.พรรค ที่มีมติให้สส.พรรคปชป. งดออกเสียงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 ก.ย.2568  

โดยส่วนตัวนายนริศมีความสนิทสนมกับนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำสส.งูเห่า จากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่น รวม 8 เสียงลงชื่อสนับสนุนให้นายอนุทินเป็นนายกฯ  โดยคาดว่านายนริศ จะเป็นตัวแทนของกลุ่มนายศักดิ์ดาเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)เนื่องจากในกลุ่มมีสส.เข้ามาหนุน8 เสียง จึงได้กระทรวงใหญ่ 

ส่วนสาเหตุที่นายศักดิ์ดาไม่สามารถรับตำแหน่งรัฐมนตรีเองได้ เนื่องจากยังเป็นสส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากลาออกจากสส.พรรค มารับตำแหน่งเองจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม เพราะตะขาดจากการเป็นสส. และอาจถูกร้องเรื่องผิดจริยธรรมร้ายแรง  ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง ก็ยังไม่ได้มีดำเนินการขับสส.งูเห่าออกแต่อย่างใด จึงทำให้ติดขัดไม่สามารถรับตำแหน่งรัฐมนตรีเองได้

ทั้งนี้นายนริศและนายศักดิ์ดามีความสนิทส่วนตัวเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนอุดมศึกษา  โดยผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์เพื่อสอบถามความชัดเจนในกรณีนี้ ทั้งนายนริศและนายร่มธรรม ปรากฏว่าทั้ง 2 ไม่รับสาย