วันที่ 2 ก.ย.2568 นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เรือนจำอ่างทอง ลงพื้นที่มาให้กำลังใจผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกมาและมาประกอบอาชีพทำกล้วยทอด มันทอด และกล้วยตากทอด ที่ได้รับการสนุบสนุนจากเจ้าของนายเกรียงศักดิ์ อารีย์วงศ์สกุล เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ กล้วยทอดไฮโซ ที่เป็นอดีตผู้ต้องขัง ได้พ้นโทษและออกมาทำธุรกิจแฟรนไซส์ พร้อมแบ่งบันให้น้องๆที่พ้นโทษ ซึ่งเรือนจำถือเป็นอีกหนึ่งสถาบันสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขัง ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ควบคุมตามกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการ “คืนคนดีสู่สังคม” ผ่านโครงการฝึกวิชาชีพหลากหลายสาขา ที่สอดคล้องกับตลาดแรงงานและวิถีชีวิตของชุมชน

โดยภายในเรือนจำ ผู้ต้องขังได้รับการถ่ายทอดทักษะอาชีพจากครูฝึกผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นงานช่างไม้ งานจักสาน งานเกษตร การเพาะเห็ด การเลี้ยงปลา ตลอดจนงานฝีมืออย่างการเย็บผ้าและการทำอาหาร ทุกกระบวนการล้วนมุ่งเน้นให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้จริง ฝึกปฏิบัติจริง และสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ทันทีเมื่อต้องกลับคืนสู่สังคม นอกจากการฝึกอาชีพแล้ว โครงการยังสร้างคุณค่าในเชิงจิตใจ ผู้ต้องขังได้ใช้เวลาอย่างมีประโยชน์ เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง และมีกำลังใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ หลายคนที่พ้นโทษออกไปสามารถประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ลดโอกาสในการหวนกลับมากระทำผิดซ้ำ

นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ต้องขอบคุณเจ้าของร้านสถานีเป็ด ตาลเอน สาขา 3 ที่ให้ความอนุเคราะห์ให้ใช้พื้นที่ตั้งร้านและ นายเกรียงศักดิ์ อารีย์วงศ์สกุล เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ กล้วยทอดไฮโซ และร้านขายอุปกรณ์ดีนะ สนับสนุนอุกรณ์ประกอบอาชีพ ซึ่งให้การสนับสนุนซึ่งการพัฒนาผู้ต้องขังให้มีอาชีพเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่เพียงช่วยให้พวกเขามีทักษะติดตัว แต่ยังช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อการดำเนินชีวิต การทำงาน และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมโครงการสร้างอาชีพในเรือนจำจึงไม่ใช่เพียงกิจกรรมระหว่างรับโทษ แต่เป็น “ก้าวแรกของการเริ่มต้นใหม่” ที่ช่วยให้ผู้ต้องขังกลับออกไปเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง และลดภาระของสังคมอีกด้วย