ประเทศไทยประกาศวิสัยทัศน์ก้าวสู่การเป็น ศูนย์กลางเชิงยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงและแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ท่ามกลางกระแสการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก โดยงาน CEO Networking Night ในเวที Thailand Electronics Circuit Asia (THECA 2025) จัดโดยสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย ได้สะท้อนความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนกว่า 45 องค์กรชั้นนำจากทั่วโลก ที่พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นฐานการลงทุนที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนที่สูงขึ้นในจีน และทิศทางการค้าของสหรัฐฯ–สหภาพยุโรป กำลังบีบให้ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ต้องหาฐานใหม่ที่มั่นคง “ประเทศไทยจึงไม่ใช่เพียงตัวเลือก แต่กำลังจะเป็นศูนย์กลางเชิงยุทธศาสตร์” แม้จีนยังคงครองสัดส่วนการผลิต PCB กว่า 50–70% ของโลก แต่การกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งจำเป็น
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ปี 2566 ไทยผลิต PCB มูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4% ของโลก และเป็น ฐานการผลิต PCB ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ด้วยโรงงานกว่า 50 แห่ง และการลงทุนกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะในเทคโนโลยี Multilayer และ HDI นอกจากนี้ยังมีเงินลงทุนใหม่กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในกลุ่มวัสดุและเครื่องมือ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ ขณะที่ 60% ของการลงทุน PCB ใหม่ในภูมิภาคกำลังเข้าสู่ไทย
ด้าน นางสาวศุธาศินี สมิตร ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ย้ำว่า BOI จะสนับสนุนเต็มรูปแบบผ่านมาตรการภาษี การจัดหาไฟฟ้าและน้ำในราคาที่มั่นคง การพัฒนาบุคลากรผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย รวมถึงการผลักดันโครงการ Thailand Electronics Circuit Center (TECC) เป็นกลไกสร้างบุคลากรและระบบนิเวศที่ครบวงจร
“อุตสาหกรรม PCB เป็นธุรกิจลงทุนสูง ไทยจึงเปิดกว้างรับเงินทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานสมบูรณ์ ตั้งแต่ PCB, PCBA ไปจนถึงวัสดุและอุปกรณ์ เพื่อให้ไทยเป็น ศูนย์กลางที่แท้จริง” นางสาวศุธาศินี กล่าว
นายเสวก ประกิจฤทธานนท์ อุปนายกและเลขานุการสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย และประธาน บริษัท ออโรเม็กซ์ จำกัด กล่าวว่า สมาคมฯ จะเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น “Regional Hub” ด้าน PCB และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง โดยใช้เวที THECA เป็นจุดสร้างความเชื่อมั่นและการเชื่อมโยงเครือข่ายระดับโลก พร้อมตั้งเป้าให้ไทยก้าวสู่ หนึ่งในสามฐานการผลิต PCB ใหญ่ที่สุดของโลก
แม้ยังมีโจทย์สำคัญเรื่องพลังงานและบุคลากร แต่ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ การลงทุนต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักวิเคราะห์ต่างเชื่อมั่นว่าไทยกำลังยกระดับสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และ PCB ระดับโลกในอนาคตอันใกล้
ดร. ชิ่ว เกา เชียง ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ Prismark เปิดบทวิเคราะห์และรายงานล่าสุดของตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ทั่วโลกและการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานไว้ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังได้รับแรงขับเคลื่อนใหม่จากการลงทุนด้าน AI และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ AI ขยายตัวกว่า 23% นับจากปี 2023 จนกลายเป็นปัจจัยหลักผลักดัน GDP คู่ขนานไปกับการบริโภค และสร้างความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และ PCB พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน โลกกำลังเข้าสู่ การเปลี่ยนภูมิศาสตร์การผลิตครั้งใหญ่ หลังจีนครองบทบาทฐานการผลิตหลักมายาวนานกว่า 20 ปี ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนแรงงาน และมาตรการทางการค้าของชาติตะวันตก กำลังเร่งให้บริษัทชั้นนำย้ายฐานการผลิต โดย ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ถูกจับตามองเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ ขณะที่สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น เน้นย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ (reshoring) เพื่อลดการพึ่งพาจีน
สำหรับตลาดโลก PCB และซับสเตรท คาดว่าจะโตจาก 73,565 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2024 เป็น 94,661 ล้านดอลลาร์ฯ ภายในปี 2029 โดยเฉพาะเซกเมนต์ Server/Data Storage PCB ที่โตแรงสุดกว่า 11% ต่อปี โดย ดร. ชิ่ว-เกา เชียง ระบุว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตลำดับ 2–3 ของโลก และประเทศไทยโดดเด่นที่สุดจากการลงทุนเพิ่มในช่วงปี 2024–2025
แม้ไทยยังเผชิญข้อจำกัดด้านซัพพลายเชนและต้นทุน แต่ก็มีโอกาสก้าวขึ้นเป็น ผู้นำเชิงกลยุทธ์ของโลก หากสามารถดึงดูด OEM (Original Equipment Manufacturer) และ EMS (Electronic Manufacturing Services) เข้ามาตั้งฐาน เร่งสร้างซัพพลายเออร์วัสดุในประเทศ และพัฒนาศักยภาพการผลิต PCB ขั้นสูง เช่น High Layer Count, Advanced HDI และ Flexible PCB สำหรับ AI Servers, ยานยนต์ และดาวเทียม ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นฐาน PCB สำคัญของโลกในอีก 5–10 ปีข้างหน้า




