“บิ๊กต๋อง” รับมือสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ย้ำพื้นที่ยังสงบ พร้อมวอนหยุดแชร์ข่าวปลุกปั่น

วันที่ 28 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เผยถึงการรับมือสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ว่า ขณะนี้ สถานการณ์ยังสงบเรียบร้อย แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าอย่างเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชน

ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ บูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบ กับหน่วยงานภาครัฐทุกระดับ ได้แก่ ฝ่ายปกครอง ทหาร หน่วยงานความมั่นคง สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เพื่อให้การควบคุมและเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรัดกุมที่สุด

“แม้สถานการณ์จะปกติ แต่เราจะไม่ประมาท ความมั่นคงของประเทศต้องมาก่อน ตำรวจทุกนายอยู่ในที่ตั้ง พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง”

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า 4 จังหวัดชายแดนภาค 3 คุมเข้มทุกจุด สกัดความเสี่ยงทุกทางในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ซึ่งมีแนวเขตติดกับประเทศกัมพูชา และเป็นจุดผ่านแดนสำคัญ

มาตรการหลักที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง:
 • ตั้งด่านตรวจร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง ตลอด 24 ชั่วโมง
 • คัดกรองผู้เดินทางเข้า–ออกอย่างเข้มข้นด้วยระบบ MRN (Movement Registration Number)
 • ศูนย์พักพิงผู้เดินทางกลับจากกัมพูชาอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด มีเจ้าหน้าที่ประจำทุกศูนย์
 • ประชาสัมพันธ์ “จุดปลอดภัย – เส้นทางอพยพ” ผ่านทุกช่องทางสื่อ เพื่อเตรียมพร้อมกรณีฉุกเฉินขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือทุกระดับ – ประชาชนคือศูนย์กลาง

นอกจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารแล้ว ภาค 3 ยังได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ได้แก่:
 • สาธารณสุข: ตรวจคัดกรอง สุขอนามัย และการควบคุมโรคในศูนย์พักพิง
 • องค์กรท้องถิ่น: เตรียมทรัพยากรรองรับประชาชนในกรณีจำเป็น
 • เครือข่ายอาสาสมัครและภาคประชาชน: ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา และช่วยเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง

เตือนประชาชน หยุดแชร์-หยุดโพสต์ข้อมูลอ่อนไหว

พล.ต.ท.วัฒนา ยังได้เน้นย้ำให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อหรือเผยแพร่ข่าวลือ ข้อมูลปลุกปั่น หรือข้อความอ่อนไหว ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยให้ยึดข้อมูลจากภาครัฐและหน่วยงานความมั่นคงเท่านั้น “การแชร์ข่าวเท็จในเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากพบว่าเป็นข้อมูลบิดเบือนหรือปลุกปั่น เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ขอให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อความสงบของประเทศ”

พล.ต.ท.วัฒนา ผบช.ภ.3 กล่าวอย่างจริงจังว่า ตำรวจภาค 3 พร้อมยืนเคียงข้างประชาชน 24 ชั่วโมง ยืนยันอีกครั้งว่า ตำรวจในสังกัดภาค 3 พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ ด้วยหัวใจแห่งการรับใช้ประชาชน และจะอยู่เป็นแนวหน้าเพื่อปกป้องบ้านเมืองในทุกสถานการณ์ “เราทำงานเพื่อความสงบสุขของประชาชน ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตำรวจภูธรภาค 3 จะไม่ทิ้งประชาชนแน่นอน”