วันที่ 24 ก.ค.68 ที่ศาลาว่าการ กทม. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยมาตรการและแนวทางจัดการกรณีคุกคามทางเพศในหน่วยงาน กทม. ว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง นโยบายการไม่เลือกปฏิบัติทางเพศ และการป้องกันการล่วงละเมิดหรือการคุกคามทางเพศในการทำงาน เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.65 โดยมีเจตนารมณ์สำคัญ ได้แก่ 1.บริหารและปฏิบัติงานบนหลักแห่งความเสมอภาค ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่กระทำการใดที่เป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน

2.สร้างวัฒนธรรมองค์กร และปลูกฝังค่านิยมให้ข้าราชการการเมืองกรุงเทพมหานคร ข้าราชการ บุคลากร และผู้ปฏิบัติงานอื่น ให้ปฏิบัติต่อกันและปฏิบัติต่อประชาชนและผู้รับบริการโดยไม่เลือกปฏิบัติ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลทุกเพศ

3.สร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีภายในหน่วยงาน และส่งเสริมความปลอดภัยไม่ให้ถูกล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน และ 4.สร้างกลไกและกระบวนการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน เพื่อมิให้มีการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน

นอกจากนี้ ยังมีกฎจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ปี 2553 ระบุถึงการกระทำด้วยวาจาที่ส่อไปในทางเพศ ตลอดจนมีข้อบังคับกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคลของลูกจ้างกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ประกาศ ณ วันที่ 4 ก.ค.68 ระบุเรื่องสำคัญหนึ่งที่ลูกจ้างต้องไม่กระทำการอันเป็นข้อห้าม เช่น ต้องรักษาชื่อเสียงของตนและชื่อเสียงของตำแหน่งหน้าที่ ราชการของตนเองไม่ให้เสื่อมเสีย ต้องไม่กระทำการอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ตามที่กำหนดไว้ในกฎ ก.พ. หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนข้อห้าม ผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีเรื่องคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้น สำนักเขตพระนครได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความจริงแล้ว สำหรับตนในฐานะดูแลสำนักเทศกิจ และฝ่ายเทศกิจของสำนักงานเขต ถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้และไม่ควรเกิดขึ้น ในฐานะที่เป็นบุคลากรหรือข้าราชการ ที่มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน แต่ขณะเดียวกันมากระทำการลักษณะคุกคาม และละเมิดเสียเอง เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ จะมีการติดตามและรายงานให้สาธารณชนทราบ

สำหรับมาตรการและกระบวนการทางวินัย ประกอบด้วย 1.ผู้อำนวยการเขตสอบสวนหรือพิจารณาในเบื้องต้น (หากมีมูล) 2.ผู้อำนวยการเขตแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย 3.แจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหา และให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาแก้ข้อกล่าวหาภายในกำหนด 4. คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยพิจารณา สำนวนการสอบสวนและทำความเห็น 5.รายงานผู้อำนวยการเขตพิจารณาโทษ