เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (10 ก.ค. 2025) Nvidia กลายเป็นบริษัทมหาชนรายแรกของโลกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 2.76% ในช่วงเปิดตลาด และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะปิดตลาดด้วยการเพิ่มขึ้น 1.8% ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทอยู่เพียงเล็กน้อยต่ำกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์
ความสำเร็จของ Nvidia ส่งผลให้บริษัทแซงหน้า Apple และ Microsoft ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกในแง่มูลค่าตลาด โดยก่อนหน้านี้ Apple เคยครองตำแหน่งด้วยมูลค่า 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนจะลดลงจากแรงกดดันด้านภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
Nvidia คือผู้นำเทคโนโลยีชิปที่ขับเคลื่อนโลก AI โดยชิปของบริษัทถูกนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลของยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Amazon และ Google เพื่อประมวลผลโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง และด้วยการคาดการณ์ว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI จะทะลุ 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ความต้องการชิปของ Nvidia จึงพุ่งไม่หยุด
รายได้ของบริษัทในไตรมาสล่าสุด (สิ้นสุดเมษายน 2025) สูงถึง 44.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 69% จากปีก่อน สะท้อนถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของตลาด AI
ซีอีโอ เจนเซน ฮวง สู่ทำเนียบมหาเศรษฐีโลก
เจนเซน ฮวง ซีอีโอของ Nvidia กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลก โดย Bloomberg Billionaires Index จัดอันดับให้เขาอยู่ในอันดับที่ 10 ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 140,000 ล้านดอลลาร์ เขายังมีบทบาทเชิงนโยบายระดับโลก โดยเข้าร่วมภารกิจทางการเมืองกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ซาอุดีอาระเบีย และมีบทบาทสำคัญในโครงการ Project Stargate ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้แรงกดดันจากจีน Nvidia ก็ยังยืนหยัด
ช่วงต้นปี Nvidia เผชิญแรงสั่นสะเทือนจากการแข่งขันของ DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพจีนที่เปิดตัวโมเดล AI ต้นทุนต่ำ ทำให้หุ้น Nvidia ร่วงลงถึง 37% ในช่วงเดือนมกราคม–เมษายน ขณะเดียวกัน บริษัทยังสูญเสียรายได้ราว 2.5 พันล้านดอลลาร์จากข้อจำกัดในการส่งออกชิป AI H20 ไปยังจีน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นเมษายน หุ้น Nvidia ฟื้นตัวแรง และเพิ่มขึ้นเกือบ 74% จนกลับสู่จุดสูงสุดใหม่
นักวิเคราะห์คาด Nvidia อาจพุ่งถึง 6 ล้านล้านภายในปี 2028
บริษัทวิจัย Loop Capital รายงานว่า Nvidia อาจมีมูลค่าตลาดสูงถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 พร้อมชี้ว่าแม้ราคาหุ้นจะพุ่งแรง แต่ Nvidia ยังคงเป็น “ผู้ผูกขาด” เทคโนโลยีหลักในยุค AI ซึ่งกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับ “ทุกประเทศ” และ “ทุกอุตสาหกรรม” ตามคำกล่าวของฮวง
“AI จะเปลี่ยนแปลงทุกวงการ ตั้งแต่ซอฟต์แวร์ การแพทย์ การเงิน ไปจนถึงการผลิตและขนส่ง และนี่เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น” ฮวงกล่าวในการรายงานผลประกอบการล่าสุด