ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย
ทฤษฎีทางภูมิรัฐศาสตร์ของแมคคินเดอร์ (1904) ที่เน้นพื้นที่ Heartland กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งจากปัญหาความขัดแย้งและสงครามระหว่างอิหร่าน-อิสราเอล เพราะมันไม่ใช่เพียงความขัดแย้งในตะวันออกกลางเท่านั้น แม้อิหร่าน ถูกถือว่าเป็นผู้เล่นสำคัญตัวหนึ่งในตะวันออกกลาง
ทว่าอิหร่านยังเป็นประตูสำคัญที่จะนำไปสู่พื้นที่ ที่เรียกว่าใจโลก (Heartland) นั่นคือแนวชายแดนอิหร่าน ในส่วนพื้นที่ยาว 1,100 กม.นั้นติดกับเติร์กเมนิสถาน หนึ่งใน 5 ประเทศเอเชียกลางที่ถือว่าเป็น Heartland
และ Heartland นี้ถ้าใครได้ครองหรือมีอิทธิพลก็จะเป็นผู้ครอบครองโลก ตามทฤษฎีภูมิรัฐศาสตร์ของแมคคินเดอร์ ทั้งนี้เพราะดินแดน 5 ประเทศนี้คือ เติร์กเมนิสถาน อุซเบกีซถาน ทาจิกิสถาน คาซัคสถาน และคีร์กิสถาน เป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่ทั้งด้านรัสเซีย จีน กับพื้นที่ตะวันออกกลาง ตุรเคีย แอฟริกา และยุโรป ด้วยเส้นทางสายไหมยุคโบราณ กับเส้นทาง BRI สายไหมใหม่ของจีนจากซินเจียง อุยกูร์ ภาคตะวันออกสู่ตะวันตก
จากผลของสงครามอิหร่าน-อิสราเอล สหรัฐฯ และ ตะวันตกพบว่าอิสราเอลไม่สามารถเป็นตัวเปลี่ยนเกมในการล้มอิหร่านได้ เพราะอิหร่านนั้นเข้มแข็งกว่าที่คาด แถมยังมีจีน รัสเซีย คอยสนับสนุนอย่างเข้มแข็ง
ดังนั้นตะวันตกจึงต้องเพิ่มตัวเล่นไปในเกมการรุกเข้าสู่เอเชียกลาง นั่นคือ การกระตุ้นอาเซอร์ไบจาน ซึ่งอยู่ทางเหนือของอิหร่าน และมีอาณาเขตติดทะเลสาบแคสเปียน รัสเซีย อาร์เมเนีย จอร์เจีย และอิหร่าน และมีเขตปกครองตนเอง นักซิวานที่ล้อมรอบด้วยอาร์เมเนีย อิหร่าน และตุรเคีย
จุดพลิกผันที่อาจทำให้อาร์ซอร์ไบจานเข้ามาเป็นตัวเล่นในเกมหมากล้อมเข้าสู่ดินแดน Heartland ก็คือความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและอาเซอร์ไบจาน ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
นั่นคือเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์รัสเซีย-อาเซอร์ไบจานแย่ลง ได้แก่การที่เครื่องบินโดยสารของสายการบินอาเซอร์ไบจานถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียในเดือนธันวาคม 2024 และการกวาดจับมาเฟียค้ายาเสพติดที่มีชาวอาเซอร์ไบจานสองคนตกเป็นผู้ต้องหา ตลอดจนมีผู้ต้องสงสัยถูกสังหาร 2 คน
ทางอาเซอร์ไบจานจึงตอบโต้ด้วยการยุติกิจกรรมทางวัฒนธรรมของรัสเซียในเมืองหลวงบากู นอกจากนี้ยังจับผู้สื่อข่าว RT และเอกชนรัสเซีย 2 คน ข้อหาพัวพันยาเสพติดและจารกรรม
นี่เป็นโอกาสสำคัญที่ตะวันตกจะเข้าสนับสนุนอาร์เซอร์ไบจาน โดยทำให้อาเซอร์ไบจานออกมารณรงค์ให้ลดการครอบงำของรัสเซียในภูมิภาคเอเชียกลาง และกระชับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตุรเกียและอิสราเอล โดยเฉพาะความร่วมมือทางทหารกับทั้ง 2 ประเทศ
สำหรับอิหร่านแม้จะยังไม่เกิดความขัดแย้งโดยตรงกับอาร์เซอร์ไบจาน แต่จากการปรับระดับและตัวเล่นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทำให้มหาอำนาจตะวันตกเพิ่มบทบาทของตนเองมากขึ้น ในภูมิภาคเอเชียกลาง ซึ่งกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญดังกล่าวแล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญด้านพลังงานที่หลายประเทศมีสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก รวมทั้งทองคำ แร่หายาก และลิเทียม ตลอดจนยังเป็นข้อต่อของเส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่างตะวันตกและตะวันออก
อนึ่งในอิหร่านมีประชากรเชื้อสายอาเซอร์ไบจานอยู่ไม่น้อยกว่า 16% หรือถ้าคิดเป็นจำนวนประชากรประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยจำนวนมาก ส่วนเตอร์กีก็มีคนเชื้อสายตุรเคียอยู่ประมาณ 10% คือ ประมาณ 9 ล้านคน
แม้ว่าประชากรเชื้อสายอาเซอร์ไบจานจะมีการแต่งงานกับชนเผ่าอื่น รวมทั้งชาวเปอร์เซียก็ตาม แต่การมีอยู่ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีชื่อว่า Southern Azerbaijan National Awakening Movement (SANAM) ซึ่งตั้งอยู่ในบากูเมืองหลวงอาเซอร์ไบจาน ซึ่งสนับสนุนการกำหนดชะตากรรมตนเองสำหรับชาวอาเซอร์ไบจานในอิหร่าน และ “การรวมตัวกันของชาวอาเซอร์ไบจานที่อาศัยอยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำอารัส” ก็เป็นปมเงื่อนที่อาจถูกปลุกขึ้นมาเพื่อบั่นทอนกำลังภายในประเทศอิหร่าน โดยการสอดประสานกลุ่มการเมืองหรือชาติพันธุ์อื่นๆ รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายอย่างไอซิส-คอราซาน หรือกลุ่มกองทัพยุติธรรมในแคว้นบาลูจีของอิหร่านทางด้านใต้ หรือ MKO มาร์ซิสตามแผนการโค่นล้มรัฐบาลที่ตะวันตกและอิสราเอลวางแผนมายาวนาน
ด้วยเหตุนี้รัฐบาลอิหร่านจึงตกอยู่ในสภาพที่เสี่ยงภัยยิ่ง หากไม่สามารถบริหารจัดการทั้งศึกภายนอกและศึกภายในให้ดี แม้ว่าจะผ่านการกรำศึกจากการโจมตีของศัตรูมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม
การที่รัฐบาลปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านจัดตั้งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม IRGC ขึ้นมาและเป็นขุมกำลังหลักในการปกป้องรัฐบาลด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย บุคลากรที่เปี่ยมด้วยอุดมการณ์ ตลอดจนการจัดตั้งกองกำลังประชาชน BASIJ ที่มีจำนวนหลายล้านคนก็เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลอิหร่านมิได้นิ่งนอนใจต่อการเตรียมการเพื่อรับมือกับขบวนการบ่อนทำลายจากตะวันตกและยิวไซออนิสต์ แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทะใหญ่ของมวลชนในประเทศ แต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลปฏิวัติอิสลามที่มีฐานรากอันเข้มแข็งจะยืนหยัดอยู่ได้ และได้ชัยชนะในที่สุด โดยอิหร่านจะไม่อยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะมีพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ รัสเซียและจีน ที่จะคอยให้การสนับสนุน เนื่องจากมีผลประโยชน์ที่จะต้องปกป้องร่วมกันในการตั้งรับการรุกของตะวันตกสู่ดินแดนที่เป็นใจโลก (Heartland) และพื้นที่ใกล้เคียง
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับอาร์เซอร์ไบจานก็เป็นจุดหักเหที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะอาร์เซอร์ไบจาน แม้จะมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่ในสภาพเป็นจริงก็นับถือแต่ในนาม ไม่สู้เคร่งครัดในการปฏิบัติมากนัก แต่สื่ออาเซอร์ไบจานได้เปิดสงครามสื่อ ด้วยการกล่าวหาว่ารัสเซีย “เกลียดกลัวอิสลาม” เพื่อสร้างปัญหาให้รัสเซียกับสาธารณรัฐที่นับถือศาสนาอิสลามจำนวนมากในรัสเซีย เช่น เชชเนีย ดาเกสถาน ตาตาร์สถาน บาซคอร์โตสถาน และอิงคูเชเทีย เพื่อให้รัสเซียเผชิญศึกหลายด้าน
ส่วนอิหร่านแม้จะมีความเป็นไปได้ปานกลางก็ไม่พึงประมาท หากเกิดเหตุการณ์จลาจลภายใน และอาร์เซอร์ไบจานจะอ้างการส่งทหารเข้ามาปกป้องประชาชนเชื้อสายตน พร้อมกับตุรเคียที่มีประชากรตุรเคียประมาณ 10% ก็ได้ จึงไม่ควรตั้งตนอยู่ในความประมาท
ดูท่าแล้วจากตะวันออกกลาง สงครามอิหร่าน-อิสราเอล มีแนวโน้มจะบานปลายไปสู่สงครามในเอเชียกลางและขยายตัวเป็นสงครามโลกในที่สุด