วันที่ 7 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่กรมเจ้าท่า ถนน โยธา นำโดยดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ลงพื้นที่เข้าพบคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงร่วมกับผู้เสียหาย กรณีถูกคุกคามทางเพศเนื่องจากผู้เสียหายอ้างว่าถูกบุคคลที่เป็นครูสอนดำน้ำจากหน่วยงานสังกัดกรมเจ้าท่าคุกคามทางเพศ พบยังมีเหยื่อเป็นผู้หญิงสาวหลายรายทั้งในโรงเรียนประจำและที่อื่นๆ โดยเคยตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์แล้วแต่คดีไม่คืบหน้าไปถึงไหน ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังลอยนวล
โดย ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายซึ่งเป็น1ในตัวแทนของผู้เสียหายประมาณ 6 ราย เป็นสุภาพสตรีทั้งหมด ไปหาต้นสังกัดเพื่อที่จะเข้าพบกรรมการสอบ ในกรณีที่ร้องเรียนไว้ว่ามีการลวนลามนักเรียนแล้วก็มีการคุกคามทางเพศกับนักเรียนที่ประจำที่หอพัก
ซึ่งทางผู้เสียหายไม่ได้สอนอยู่ในโรงเรียนนี้ แต่ไปหาการสอนแบบไพรเวทนะก็คือการไปเจอกัน ซึ่งคนดังกล่าวมีโปรไฟล์ดีอ้างตัวเป็นครูฝึกดำน้ำมีใบรับรองมากมาย สามารถสอนได้ก็เลยตกลงที่กันโดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่9เมษายน 2568 มาผิดปกติวันที่11เมษายนได้ขอเลื่อนเวลาไปสอนตอนหนึ่งทุ่มและในระหว่างการสอน ก็เริ่มเข้ามาประชิดตัวเริ่มมาแนบตัวร่างกายมาเสียดสี ซึ่งโดยปกติแล้วการสอนว่ายน้ำ ไม่จำเป็นต้องแนบชิดขนาดนั้น พอผู้เสียหายพยายามดิ้นออก ก็ยังพยายามเข้ามา ก่อนที่ผู้เสียหายจะสลัดตัวและวิ่งหนีลงลิฟท์ จนกระทั่งไปออกรายการและมีผู้เสียหายแจ้งมาเพิ่ม ผ่านเพจเฟซบุ๊กต่างๆ
ทั้งนี้ผู้เสียหายเหล่านี้อ้างว่าผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว มีพฤติกรรมข่มขู่ว่าถ้าไม่ยินยอมก็จะไม่ให้เรียนอย่างปกติสุข และมีเหตุที่น่าสงสัยว่าเวลาไปแจ้งความแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างให้ความเป็นธรรมกับผู้ก่อเหตุมากกว่า ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้หญิง โดยผู้ก่อเหตุได้ไปเอากล้องวงจรปิดที่คอนโดน้อง ไปพร้อมกับตำรวจพร้อมเครื่องแบบเต็มยศและไม่มีเอกสาร ทำให้น้องรู้สึกไม่ปลอดภัย
ด้านนางสาวศศิธร เปิดเผยว่า ตนอยากได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าในการต่อสู้ต้องเสียพลังงานที่ดีทุกครั้ง จนภาวนาให้มันเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พูดเรื่องนี้ โดยผู้ก่อเหตุยังมีกาาโพสต์ทางช่องทางเฟซบุ๊กส่วนตัวกล่าวหาเราเป็นมิจฉาชีพพยายามสร้างสถานการณ์ให้เราเสียหาย ซึ่งตอนนี้เป็นห่วงในด้านของคดีที่อยู่ทางสภ.บางศรีเมืองที่ยังไม่มีความคืบหน้า