วันที่ 2 ก.ค.68 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม.ดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยที่ 3 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกทม. สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ ส.ก.เขตคลองสามวา ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา โดยอาศัยระเบียบการประชุมสภากทม. ข้อ 39 (1) ขอให้สภากทม. เลือกตั้งประธานสภากทม.คนใหม่ โดยมี ส.ก. 25 คน เข้าชื่อร่วมเสนอญัตติดังกล่าว ทั้งนี้ อาศัยระเบียบข้อบังคับการประชุมข้อที่ 27 ในการดำเนินการประชุม ควรใช้วิธีประชุมลับ ไม่เผยแพร่ข้อมูล ภาพ เสียง ออกสู่สาธารณะ และให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากที่ประชุมสภากทม. จากนั้นมี ส.ก.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ยกมือรับรองญัตติและแนวทางประชุมดังกล่าว โดยนางสาวนฤนันมนต์ ได้ยื่นหนังสือรายละเอียดญัตติต่อประธานสภากทม.
นายสุรจิตต์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ควรประชุมลับ แต่ควรดำเนินการให้โปร่งใส ไม่มีอะไรปิดบังประชาชน ตนไม่เห็นด้วยกับญัตติและวิธีการประชุมดังกล่าว จากการวินิจฉัย จึงเห็นว่ายังไม่ใช่ญัตติด่วน เนื่องจากยังมีอีกหลายญัตติที่คงค้างอีกมาก ส่วนวิธีการปฏิบัติยังเคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตาม ส.ก.อาจอาศัยข้อบังคับการประชุมข้อที่ 38 เสนอเรื่องล่วงหน้าได้ แต่เพื่อความสบายของ ส.ก. ตนจะส่งญัตติดังกล่าวให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าเป็นญัตติด่วนจริงหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป นอกจากนี้ควรมีการถ่ายทอดการประชุมตามปกติ ไม่มีการปิดบัง และย้ำคำวินิจฉัยว่า ญัตติดังกล่าวไม่เป็นการด่วน และไม่บรรจุวาระ
นางสาวนฤนันมนต์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายอีกครั้ง โดยอ้างข้อบังคับการประชุมข้อที่ 126 ว่าหากมีปัญหาในการตีความข้อบังคับ ให้สภากทม. เป็นผู้ลงมติชี้ขาด
นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ก. ที่จะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา ดังนั้น ประธานสภากทม.ต้องบรรจุ แต่จะบรรจุในวาระใด เมื่อใด ก็แจ้งให้ ส.ก.ทราบ แต่จะไม่บรรจุไม่ได้
ท้ายสุด นายสุรจิตต์ กล่าวว่า ขอดูเอกสารรายละเอียดก่อน จึงจะบรรจุวาระได้ และกล่าวพักการประชุม
สำหรับข้อบังคับการประชุมสภากรุงเทพมหานคร พ.ศ.2562 แก้ไขเพิ่มเติมโดย ข้อบังคับการประชุมสภากรุงเพมหานคร(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครพ.ศ. 2559 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ในข้อ 39 (1) ซึ่งญัตติต่อไปนี้ไม่ต้องเสนอล่วงหน้าเป็นหนังสือ แต่ต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 2 คน โดยขอให้ปรึกษาหรือพิจารณาเป็นการด่วน
ข้อ 27 การประชุมสภาย่อมเป็นการเปิดเผย หากเป็นการสมควรประธานสภากทม.อาจจัดให้มีการถ่ายทอดทางวิทยุกระจายเสียงหรือโทรทัศน์หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ แต่ถ้าผู้ว่าฯกทม. หรือสมาชิกมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของสภากทม. ร้องขอให้มีการประชุมลับ ให้ประธานสภากทม.สั่งผู้มีได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประชุมนั้นออกจากที่ประชุมให้พ้นระยะที่จะฟังการประชุมได้ การร้องขอให้มีการประชุมลับอาจทำเป็นหนังสือก็ได้แต่ไม่จำต้องบอกล่วงหน้าในการประชุมลับ ห้ามมิให้ถ่ายทอดทางวิทยุกระจายเสียงหรือ โทรทัศน์ รวมทั้งห้ามใช้เครื่องบันทึกเสียง เครื่องบันทึกภาพ หรือเครื่องมือ สื่อสารใด ๆ เว้นแต่การบันทึกของสภากทม.
ข้อ 126 ถ้ามีปัญหาที่จะต้องตีความข้อบังคับนี้ ให้เป็นอำนาจของสภากทม.ที่จะวินิจฉัย การลงมติวินิจฉัยต้องมีคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่อยู่ในที่ประชุม เมื่อที่ประชุมได้ลงมติวินิจฉัยเป็นประการใดแล้วให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นเป็นที่สุด
การขอให้ที่ประชุมวินิจฉัยตามวรรคหนึ่ง อาจกระทำได้โดยประธานสภากทม.ขอปรึกษา หรือสมาชิกเสนอญัตติต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 5 คน