ในช่วงปีที่ผ่านมา ประเด็น "ปลาหมอคางดำ" (Sarotherodon melanotheron) ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาสิ่งแวดล้อมในเชิงนิเวศ แต่ได้กลายเป็นสนามรบของข้อมูลที่บิดเบือนหรือข้อความชวนเชื่อ รวมถึงการสื่อสารโดยใช้ “ภาพเท็จ” ไม่ว่าจะเพื่อต้องการสร้าง "ข่าวปลอม" หรือไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้อง ล้วนเป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจผิดในสังคม ที่อาจจะเป็นการเรียกร้องสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ และเพื่อการหาพวกพ้องมาสนับสนุนโดยใช้ข้ออ้างอันฟังดูน่าคล้อยตามอย่าง “SLAPP”

ในเชิงจริยธรรมและความถูกต้อง ไม่ว่าการพูดพาดพิงหรือการนำภาพไปใช้ต้องมีหลักฐานและตรวจสอบความถูกต้องก่อน ไม่ใช่แค่กล่าวอ้างหรือบิดเบือนเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อความจริงปรากฏ คำถามที่ตามมา คือ สิทธิเสรีภาพนั้น ถูกใช้เพื่อปกป้องประโยชน์ส่วนรวมจริง หรือเป็นแค่เกราะกันผิดของคนที่ไม่กล้ายืนบนข้อเท็จจริง? ใครควรรับผิดชอบ? และกรณีนี้เรียกว่า "ปิดปาก" ได้หรือไม่

ช่วงนี้ เราท่านคงพบเห็นคำว่า "SLAPP" (Strategic Lawsuit Against Public Participation) หรือการฟ้องเพื่อ "ปิดปาก" ผู้วิพากษ์ ซึ่งไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อล้มล้างสิทธิเสรีภาพ หากแต่เป็นการปกป้องชื่อเสียงองค์กรที่ถูกกล่าวหาด้วยข้อมูลเท็จ และ ภาพประกอบที่ไม่ได้มาจากสถานที่จริง ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดให้สังคมในวงกว้างอย่างมีนัยยะของผลกระทบรุนแรง

ในกรณีดังกล่าว จำเป็นต้องแยกแยะให้ชัดว่า “SLAPP” กับ “การฟ้องเพราะใช้ข้อมูลเท็จ” ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน พูดให้ชัดเจน คือ ภาพเท็จ-ข้อมูลเท็จ ไม่ใช่การถูกละเมิดสิทธิในการแสดงความเห็น แต่คือการรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป 

SLAPP จึงเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการฟ้องคดีที่จงใจ “ปิดปาก” นักเคลื่อนไหวหรือภาคประชาชน แต่ในกรณีนี้ หากผู้ที่ถูกฟ้องกลับเป็นฝ่ายที่นำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน ขาดการตรวจสอบความถูกต้องต้น โดยไม่มีหลักฐานรองรับ ก็จำเป็นต้องรอการพิสูจน์ของขบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินตามหลักทางวิทยาศาสตร์

หลายกรณีที่มีการใช้ SLAPP เป็นข้ออ้างเพื่อเรียกร้องความสนใจ แรงสนับสนุนและความชอบธรรม หาก SLAPP เป็นการข่มขู่ให้กลัวจริง ก็ยังเห็นได้ว่าหลายกลุ่มยังโพสต์ วิจารณ์ โจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง SLAPP จึงไม่ใช่การถูกปิดปาก ความจริงคือการรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองพูดออกไปแล้วสร้างความเสียหาย

สังคมกำลังปกป้องสิทธิเสรีภาพ หรือกำลังปล่อยให้ความเท็จชี้นำสังคม หากเรายอมให้การอ้าง SLAPP เป็นเกราะกำบังคนที่บิดเบือนและขาดความรับผิดชอบ แสดงว่าเรากำลังสร้างบรรทัดฐานที่อันตรายต่ออนาคต

ในโลกที่โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่มีอิทธิพลในการสื่อสารทั้งเชิงบวก-ลบ แต่จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเชื่อข้อมูลที่แพร่กระจายในวงกว้าง ไม่ใช่บิดเบือนวัตถุประสงค์ และใช้ SLAPP บังหน้า เพื่อเพราะหวังจะเอาตัวรอดจากความผิด

โดย : อัปสร พรสวรรค์ นักวิชาการอิสระ