"โอแอนด์บี" แบรนด์รองเท้าสัญชาติไทย เดินเกมรุกตลาดออนไลน์ จับมือนักลงทุนไทย-เทศขยายฐานกลุ่มลูกค้า สร้างการรับรู้ 360 องศา ตั้งเป้ายอดขาย 400 ล้านบาท
นางสาวรรินทร์ ทองมา ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท อาเทอ แอนด์ บุค จำกัด ผู้จำหน่ายรองเท้าแบรนด์ "โอแอนด์บี" (O&B) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดออนไลน์ในเมืองไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักช้อปออนไลน์ ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงมีการปรับตัว เป็นมากกว่าธุรกิจ SME หรือร้านขายรองเท้าแบบเดิมๆ ไปสู่การพัฒนาเพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ และวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่เหมาะสม สอดคล้อง และตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น
นอกจากนี้ยังได้วางแผนขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์หลัก"ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง"มากขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์และความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย และมัดใจผู้บริโภคด้วย Know-How ที่ใช้ในการทำธุรกิจแฟชั่น E-Commerce กับกลุ่มผู้หญิงที่เป็นผู้บริโภคในระดับ B+ ซึ่งเป็น ส่วนสำคัญที่ทำให้ O&B เติบโตจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่้ปัจจุบัน O&B มีฐานลูกค้าใน เฟซบุ๊ก 1,000,000 คน และมีการกดแชร์ กดรีโพสต์มากกว่า 3,000,000 ล้านคนขึ้นไปต่อวัน รวมถึงฐานลูกค้าใน Instagram อีก 300,000 คน ยังไม่รวมถึงกลุ่มลูกค้าใน Line@ ซึ่ง Broadcast ครั้งหนึ่งจะไปถึงกลุ่มลูกค้าอีก 100,000 คน
ดังนั้นในแง่ของธุรกิจออนไลน์ถือว่ามีความแข็งแรงมากในส่วนของฐานข้อมูลลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์อยู่ในมือ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าเป็นคนไทยถึง 95% และต่างชาติ 5% แต่ปริมาณ engagement ใน social media เป็นคนไทย 70% ต่างชาติ 30% จึงเล็งเห็นเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดมากยิ่งขึ้นพร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังเล็งขยายธุรกิจกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์คนเมือง ด้วยการเปิดคาเฟ่ บริเวณชั้น 1 ของโชว์รูม ซอยอารีย์ ช่วงกลางปี 2562
ด้านแผนการขยายสาขาปีนี้จะขยายเพิ่มอีก 5 สาขาตามเส้นรถไฟฟ้า ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ สาขา เอ็มโพเรียม เป็นแฟล็กชิปสโตร์บนพื้นที่ขนาด70 ตรม. และสาขาเซ็นทรัลชิดลม ในเดือนก.พ., สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ในเดือนมีและอีก 2 สาขาภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังจะให้ความสำคัญในการเลือกพันธมิตรต่างชาติ ผ่าน market place ของแต่ละประเทศเพื่อร่วมลงทุนและขยายตลาดทั้งออนไลน์ รวมไปถึงตลาดรีเทล (ตลาดค้าปลีก) และ Whole sale (ตลาดค้าส่ง)
สำหรับเป้าหมายยอดขายหลังจากที่บริษัทรุกทำตลาด ขยายช่องทางจำหน่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะช่วยขยายฐานธุรกิจเข้าไปในตลาดใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้โตอย่างก้าวกระโดดสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ผู้หญิงระดับโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และจะสามารถช่วยผลักดันยอดขายเติบโต 100% หรือคิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาทภายในสิ้นปี นี้
นอกจากนี้ยังได้วางแผนขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์หลัก"ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง"มากขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์และความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย และมัดใจผู้บริโภคด้วย Know-How ที่ใช้ในการทำธุรกิจแฟชั่น E-Commerce กับกลุ่มผู้หญิงที่เป็นผู้บริโภคในระดับ B+ ซึ่งเป็น ส่วนสำคัญที่ทำให้ O&B เติบโตจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่้ปัจจุบัน O&B มีฐานลูกค้าใน เฟซบุ๊ก 1,000,000 คน และมีการกดแชร์ กดรีโพสต์มากกว่า 3,000,000 ล้านคนขึ้นไปต่อวัน รวมถึงฐานลูกค้าใน Instagram อีก 300,000 คน ยังไม่รวมถึงกลุ่มลูกค้าใน Line@ ซึ่ง Broadcast ครั้งหนึ่งจะไปถึงกลุ่มลูกค้าอีก 100,000 คน
ดังนั้นในแง่ของธุรกิจออนไลน์ถือว่ามีความแข็งแรงมากในส่วนของฐานข้อมูลลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์อยู่ในมือ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าเป็นคนไทยถึง 95% และต่างชาติ 5% แต่ปริมาณ engagement ใน social media เป็นคนไทย 70% ต่างชาติ 30% จึงเล็งเห็นเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดมากยิ่งขึ้นพร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังเล็งขยายธุรกิจกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์คนเมือง ด้วยการเปิดคาเฟ่ บริเวณชั้น 1 ของโชว์รูม ซอยอารีย์ ช่วงกลางปี 2562
ด้านแผนการขยายสาขาปีนี้จะขยายเพิ่มอีก 5 สาขาตามเส้นรถไฟฟ้า ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ สาขา เอ็มโพเรียม เป็นแฟล็กชิปสโตร์บนพื้นที่ขนาด70 ตรม. และสาขาเซ็นทรัลชิดลม ในเดือนก.พ., สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ในเดือนมีและอีก 2 สาขาภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังจะให้ความสำคัญในการเลือกพันธมิตรต่างชาติ ผ่าน market place ของแต่ละประเทศเพื่อร่วมลงทุนและขยายตลาดทั้งออนไลน์ รวมไปถึงตลาดรีเทล (ตลาดค้าปลีก) และ Whole sale (ตลาดค้าส่ง)
สำหรับเป้าหมายยอดขายหลังจากที่บริษัทรุกทำตลาด ขยายช่องทางจำหน่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะช่วยขยายฐานธุรกิจเข้าไปในตลาดใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้โตอย่างก้าวกระโดดสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ผู้หญิงระดับโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และจะสามารถช่วยผลักดันยอดขายเติบโต 100% หรือคิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาทภายในสิ้นปี นี้