เมื่อ City of Dreams Macau นำเสนอความบันเทิงหลากหลายรูปแบบให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลิน ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมัลติมีเดีย และการแสดงทางน้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดอย่าง The House of Dancing Water ทำให้ City of Dreams Macau เป็นศูนย์กลางความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ เป็นส่วนหนึ่งของตัวเลือกความบันเทิง เริ่มต้นตั้งแต่การใช้ชีวิตในโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหารตั้งแต่จีน ญี่ปุ่น นานาชาติ รวมถึงอาหารไทยก็มีให้เห็นทั้งในระดับที่พอจับต้องได้ จนถึงในราคาระดับภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้าที่พร้อมสรรพไปด้วยแบรนด์ดังสุดหรู ทั้งเครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า  เป็นต้นนอกจากนี้ยังมี แกลอรี่แสดงงานศิลปะ ที่ซุกซ่อนตัวไว้อยู่ในมุมต่างๆ โดยรายล้อมด้วยคาสิโน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของตึก 

 

สนับสนุนวิสัยทัศน์

โดย นาย ลอเรนซ์ โฮ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Melco Resorts & Entertainment กล่าวถึงการแสดง House of Dancing Water โฉมใหม่ ว่า มิได้เป็นเพียงการแสดงที่ถูกออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนวิสัยทัศน์ของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าในการเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวและความบันเทิงของโลก  ซึ่ง The House of Dancing Water เป็นการแสดงทางน้ำที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งถือเป็นการแสดงสดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นผลงานการแสดงสดที่เป็นศูนย์กลางของความบันเทิงและความบันเทิงโดยรวมของ City of Dreams การแสดงนี้จัดขึ้นในโรงละคร Dancing Water ที่ทันสมัยมีที่นั่ง 2,000 ที่นั่ง ถือเป็นการแสดงที่สร้างสรรค์และจินตนาการได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

ทั้งนี้ The House of Dancing Water ได้สร้างแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแท้จริงในสายตาของประชาชนทั่วไปในฮ่องกงและมาเก๊า รวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ไม่เพียงแต่ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมและนักวิจารณ์เท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทั่วทั้งธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้เยี่ยมชมสถานที่ การเข้าพักโรงแรม จำนวนผู้เข้าพักร้านอาหาร และการใช้จ่ายด้านการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้น

มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โดยภายใน City of Dreams ยังประกอบไปด้วย Morpheus Hotel  ซึ่งล็อบบี้ของโรงแรมมอร์เฟียส ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกหญิงผู้ล่วงลับที่มีชื่อเสียงระดับตำนาน ดาม ซาฮา ฮาดิด (Dame Zaha Hadid DBE) เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัล Pritzker Architecture Prize อันทรงเกียรติ เป็นผลงานชิ้นเอกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโบราณวัตถุหยก โดยเป็นอาคารสูงแห่งแรกของโลกที่ใช้โครงสร้างภายนอกแบบอิสระ (Free-form Exoskeleton-bound) และรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมล้ำสมัยไว้มากมาย

สำหรับ โรงแรมมอร์เฟียสเปรียบได้กับงานศิลปะชิ้นหนึ่ง และได้รับรางวัลด้านการออกแบบมากมายตั้งแต่เปิดตัว รวมถึงรางวัล “Prix Versailles” – รางวัลสถาปัตยกรรมและการออกแบบระดับโลกจากยูเนสโก (UNESCO) ประกอบไปด้วยห้องพัก ห้องสวีท และวิลล่ารวมประมาณ 770 ห้อง โดยรวมถึงพูลวิลล่าหรูระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ 3 หลัง และดูเพล็กซ์วิลล่า 6 หลัง ออกแบบโดยนักออกแบบภายในระดับโลก ปีเตอร์ เรเมดิโอส (Peter Remedios) เอเทรียม (Atrium)

ล็อบบี้กลางของโรงแรมสูง 35 เมตร โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมรูปทรงอิสระและผนังกระจกใสที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย  หอคอยคู่ (Two Towers) เป็นหอคอยสองฝั่ง เชื่อมกันด้วยลิฟต์พาโนรามาความเร็วสูง 12 ตัว และสะพานเชื่อมระหว่างอาคาร 2 จุด ได้แก่ ชั้น 21 และชั้น 30 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องอาหารสำคัญของโรงแรม

ขณะที่ ชั้น 21 จะมี ร้าน Yi ร้านอาหารจีนไฟน์ไดน์นิ่งสมัยใหม่ของมาเก๊า ที่ได้รับรางวัล Black Pearl หนึ่งเพชรส่วน ชั้น 30: The Morpheus Executive Lounge เลานจ์สุดหรูที่ให้บริการแบบใกล้ชิดแก่แขกผู้เข้าพักในห้องสวีทและวิลล่า และโรงแรมยังเป็นที่ตั้งของร้าน Alain Ducasse at Morpheus ซึ่งได้รับรางวัลมิชลิน 2 ดาว และ Black Pearl 2 เพชร ล่าสุดยังได้จัดงาน “An Exclusive Evening with Legendary Chef Alain Ducasse” และร้าน L’attitude ก็เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง

สำหรับ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท มาเก๊า เป็นอาคารสองหลังที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแกรนด์ ไฮแอท มาเก๊าเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งที่ City of Dreams โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท มาเก๊ามีห้องพักประมาณ 800 ห้อง โดดเด่นด้วยการออกแบบร่วมสมัยและการตกแต่งภายในอันทันสมัย ​​นอกจากนี้ แขกยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการเข้าถึงห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงอันกว้างขวาง ตลอดจนร้านอาหารและบาร์ที่ตั้งอยู่ในอาคารแฝดได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย