ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.30 น.นายพัฒนเวไนย บุญรักษา ทนายความ นำตัวนายธนะวิทย์หรือ แฮก อายุ 22 ปี อยู่บ้าน ม.7 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เข้ามอบตัวต่อ ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 105/2568 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 68 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มียาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยมี ร.ต.อ.ยุตพงศ์  บางหรง รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพรและมี พ.ต.ท.สานิช หนูคง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาในการร้องขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดชุมพร ลงมาดำเนินการกำกับการสอบสวนปากคำด้วยตนเอง

โดย พ.ต.ท.สานิช หนูคง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 68 เวลาประมาณ 12.30 น.ทาง ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ ศักดิ์แสง รอง สว.สืบสวน ตร.ภ.8 ได้สืบทราบว่า นายธนะวิทย์หรือ แฮก  เป็นบุคคลเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้เข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด อยู่ที่บ้า ม.7 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ น.ส.อรวรรณ อายุ 33 ปี ซึ่งศักดิ์เป็นญาติ จึงได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตร.ภ.8 ลงพื้นที่เป้าหมาย เพื่อตรวจสอบและจับกุม

ซึ่งพ.ต.ท.สานิช หนูคง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังจากที่กำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียวสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บล 5203 ชุมพร จอดอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยมีนายธนะวิทย์ ยืนอยู่ใกล้กับรถ เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดประตูรถกรูลงไปเพื่อขอตรวจค้น แต่นายธนะวิทย์ เห็นเจ้าหน้าที่กับเปิดประตูรถขับออกไป ซึ่งหากปล่อยให้หลบหนีไปได้ เกรงจะทำลายหลักฐานทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืน ยิงล้อยาง แต่นายธนะวิทย์ ก็ยังสามารถขับรถหลบหนีไปได้ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามขับรถไล่ ประกอบกับเส้นทางที่ใช้หลบหนีเป็นถนนในหมู่ มีตรอกซอกซอยเยอะ ทำให้เจ้าหน้าที่หลงทิศทาง และมาพบรถกระบะอีกที จอดทิ้งไว้ริมถนนห่างจากบ้านไปประมาณ 2 กม.ส่วนตัวนายธนะวิทย์ ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว โดยตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สานิช กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้กลับเข้าไปทำการตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปืน บีบีกัน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การเสพยาและยาบ้า อีก 1 เม็ด จึงได้เชิญทางผู้ใหญ่บ้านมาร่วมเป็นพยานในการยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะขอหมายจับตัวนายธนะวิทย์ ในฐานความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มียาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต”ซึ่งหลังจากที่ศาลได้อนุมัติจับ ได้เพียง 2 วัน วันนี้นายธนะวิทย์ ก็ได้เดินทางมามอบตัวพร้อมทนายความ

โดยเบื้องต้น ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังได้ฟ้องกลับเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.8 ซึ่งเป็นชุดเข้าตรวจค้นและจับกุม ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่สามารถทำได้ และก็ต้องไปว่ากันในชั้นศาลต่อไป

ต่อมา ทางนายพัฒนเวไนย บุญรักษา ทนายความ เปิดเผยว่า  หลังจากที่ได้นำตัวนายธนะวิทย์ มามอบตัวและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.ทุ่งตะโก ได้สอบปากคำ โดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง โดยมีตนเองซึ่งเป็นทนายความได้ร่วมฟังด้วย โดยนายธนะวิทย์ ได้ให้การว่า  เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2568 เวลาประมาณ 12.00 น.ได้ขับขี่รถยนต์กระบะ รุ่นดีแม็ก สีบรอนเงิน ทะเบียน บล-5203 ชุมพร จากบ้านพักอาศัยของผู้แจ้ง มาพบนายดาม หรือนายบุญฤทธิ์ ไชยภักดี ที่หน้าบ้าน น.ส.อรวรรณ พิมาน บ้านที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 38/2 ม.7 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เมื่อมาถึง ได้จอดรถไว้ที่หน้าบ้าน และเข้านั่งอยู่กับนายบุญฤทธิ์ ได้ประมาณ 1 ช.ม.จากนั้น นาย บุญฤทธิ์ ได้ไปทำงาน นายธนะวิทย์ จึงได้นั่งเล่นที่หน้าบ้าน ต่อมาได้มีเพื่อน ชื่อ อั้ม (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)ได้ขับรถยนต์กระบะแบบตู้ทึบ ผ่านมาและได้จอดแวะพูดคุยทักทาย สักพักหนึ่งได้ชับรถออกไป

ด้านนายพัฒนเวไนย บุญรักษา ทนายความ กล่าวว่า หลังจากนั้น นายธนะวิทย์ ได้ไปนั่งในรถยนต์กระบะ ของตนเองฝั่งคนขับ และไม่นานได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว รุ่นเก่า ล้อแม็กสีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับมาจอดที่บริเวณหน้ารถของนายธนะวิทย์  และได้มีชายฉกรรจ์ ประมาณ 3 คน แต่งกายชุดธรรมดาทั่วไป โดยทุกคนถืออาวุธปืนยาว ลงมาจากรถ ด้วยความตกใจ นายธนะวิทย์ จึงได้สตาร์ทเครื่องยนต์และขับหลบหนีไป หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนตั้งขึ้นประมาณ 10 นัด ดังไล่หลังมา ซึ่งขับรถหนีไปได้ประมาณ 2 กม.รถได้เสียหลักตกลงริมถนนข้างทาง และได้ตรวจดูปรากฏว่าล้อยางด้านหน้าข้าง จึงได้โทรศัพท์หาเพื่อนมารับ ให้ไปส่งบ้านญาติที่อำเภอท่าชนะ และได้ประสาน นายพัฒนเวไนย บุญรักษา ทนายความ พาไปลงบันทึกแจ้งความ ที่ สภ.ท่าชนะ ไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ นายพัฒนเวไนย บุญรักษา ทนายความ กล่าวต่อว่า และในวันนี้ หลังจากที่ทราบว่า ตำรวจได้ออกหมาย จับ จึงได้นำนายธนะวิทย์ มามอบตัวเพื่อสู้คดี ขอความเป็นธรรม และพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ ศักดิ์แสง และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายผู้ที่ลงลายมือชื่อในชุดที่ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับนายธนะวิทย์ ในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู่ขัดขวางเจ้าพนักงาน และพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่  พร้อมทั้งกรณีที่ตำรวจชุดดังกล่าว ใช้อาวุธยิงใส่รถยนต์ทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันแจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน และยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดี ร่วมกันพยายามฆ่ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว อีกด้วย

ต่อมา ทาง น.ส.อรวรรณ อายุ 33 ปี อยู่บ้าน หมู่ 7 ตำบลทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร พร้อมด้วย นายบุญฤทธิ์ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา ได้เดินทางมาที่ สภ.ทุ่งตะโก เพื่อมาเป็นพยานให้กับนายธนะวิทย์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยการสอบปากคำนายธนะวิทย์ ใช้เวลานานหลายชั่วโมง จึงต้องเลื่อนไปในวันพรุ่งนี้