เมื่อวันที่ 17 พ.ค.68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้เดินทางมาจังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและโครงการต่างๆ ตลอดจนแผนป้องกันและรับมือปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยเริ่มที่ อำเภอโกสุมพิสัย มีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดมหาสารคาม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้รายงานสถานการณ์น้ำในภาพรวมของจังหวัดมหาสารคาม ที่ไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ มีเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 17 แห่ง ความจุเก็บกักรวม 81.420 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 23.39 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 28.73 ของความจุ สามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 58.03 ล้าน ลบ.ม. สถานการณ์น้ำแม่น้ำชีในเขต จ.มหาสารคาม อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยรวมในปีนี้ไม่น่ามีปัญหาเรื่องภัยแล้ง แต่จะมีปัญหาเรื่องอุทกภัยในพื้นที่ท่วมซ้ำซากบ้าง
ก่อนจะมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงปรับปรุงคันกั้นน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการระบาย ประตูระบายน้ำ D5 (ดีห้า) ห้วยน้ำเค็ม ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ที่มีโครงการแก้ไขปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และส่วนต่อยอดเพิ่มเติม ซึ่งถ้าดำเนินการเบ็ดเสร็จแล้วจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งภัยแล้งและอุทกภัยได้อย่างมาก
จากนั้นได้เดินทางไปรับฟัง สถานการณ์ ปัญหา และข้อเสนอต่าง ๆ ที่ อำเภอเชียงยืน โดยได้มีการเสนอโครงการพัฒนาแก่งหญ้าโล้น ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาทั้งภัยแล้งและ อุทกภัยในพื้นที่อำเภอเชียงยืนและใกล้เคียงได้พร้อมกัน ซึ่งทางรองนายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจและให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้าสนับสนุนและติดตามเรื่องงบประมาณโครงการนี้อย่างใกล้ชิด
โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่และพัฒนาแหล่งน้ำ พร้อมให้หน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการความร่วมมือและจัดทำแผนรับมือภัยแล้งและอุทกภัยอย่างเป็นระบบ รวมถึงให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้คุณค่าของน้ำ และใช้น้ำอย่างประหยัด ตลอดจนมอบหมายให้ กนช. ติดตามเรื่องงบประมาณและการเสนองบประมาณในอนาคตเพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำ โดยเฉพาะโครงการจ่าง ๆ ที่นายกรัฐมนตรีเคยเห็นชอบแล้ว
นอกจากนั้นรองนายกรัฐมนตรียังฝากนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยกันดูแลเรื่องกองทุนหมู่บ้าน ให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง โปร่งใส และประชาชนชาวบ้านได้ประโยชน์เต็มที่ด้วย


