เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ลีดเดอร์ชิพ โพลล์ วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหัวข้อ “ความคาดหวังประชาชนทั่วไปที่จะให้ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร” โดยทำการสำรวจผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 15-20 กุมภาพันธ์ 2568 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,200 คน เพื่อสะท้อนมุมมองของสังคมต่อบทบาทฝ่ายค้านและการตรวจสอบรัฐบาล ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้ฝ่ายค้านเน้นโจมตีในประเด็นปัญหาเศรษฐกิจและความไม่โปร่งใสในการบริหารงานเป็นหลัก
จากผลสำรวจในประเด็นแรก พบว่า ประชาชน 73.42% สนับสนุนให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขณะที่ 16.58% ระบุว่าไม่แน่ใจ และมีเพียง 10% ที่ไม่สนับสนุน
สำหรับประเด็นที่ประชาชนต้องการให้ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นอภิปราย ผลสำรวจระบุว่า อันดับ 1 คือปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง รวมถึงรายได้ของประชาชนที่ไม่เพิ่มขึ้น คิดเป็น 53.08% รองลงมาคือ การทุจริตคอร์รัปชันและความไม่โปร่งใสในโครงการของรัฐบาล รวมถึงปมปัญหาชั้น 14 ที่ 44.17% และอันดับ 3 คือ การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ เช่น ฝุ่น PM2.5 น้ำท่วม และภัยแล้ง ซึ่งประชาชนมองว่านโยบายพลังงานสะอาดของรัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพ คิดเป็น 43.25%
ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่ประชาชนคาดหวังให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ ได้แก่ ปัญหาความมั่นคงและอาชญากรรม (39.50%) การก่อหนี้สาธารณะและภาระทางการคลังของประเทศ (33.42%) และผลกระทบจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท (31.33%) นอกจากนี้ยังมีประเด็นการแต่งตั้งบุคคลสำคัญที่ไม่เหมาะสม (29.50%) นโยบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์หรือคาสิโนถูกกฎหมาย (26.50%) ความไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมายกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง (22.00%) และการบริหารงานที่ไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย (18.83%)
ในส่วนของความคาดหวังหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 31% ของประชาชนต้องการให้รัฐบาลบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ 30.92% ระบุว่าไม่คาดหวังอะไรเพราะมองว่าสถานการณ์จะไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนอีก 24.75% ต้องการให้รัฐบาลยุบสภา ขณะที่ 10.33% คาดหวังให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี และ 3% ต้องการให้รัฐบาลได้รับการยอมรับมากขึ้น
