ไฟไหม้ลามไร่อ้อยของเกษตรกรตั้งแต่บ่ายวานนี้ ทั้งชาวบ้านและรถดับเพลิงพยายามสกัดไม่ให้ลามต่อ แต่เป็นไปด้วยความลำบากเพราะกระแสลมแรงและไร่อ้อยมีพื้นที่ปลูกติดกัน ล่าสุดควบคุมไฟได้แล้ว ตรวจสอบพบต้นเพลิงจากการเผาอ้อยอำเภอข้างเคียงแล้วลามเข้า อ.บ้านด่าน รวมไม่อ้อยเสียหายประมาณ 150 ไร่

วันที่ 26 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีไฟลามทุ่งไหม้ลามไปติดไร่อ้อยของเกษตรกรที่บ้านปอแดง หมู่ 9 ต.โนนขวาง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ โดยหลังจากไฟไหม้เจ้าของไร่อ้อยต่างออกมาพยายามดับไฟ รถดับเพลิงของเทศบาลใกล้เคียงได้เข้าไปพยายามควบคุมเพลิงตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น.วานนี้(25 ม.ค.)เพื่อไม่ให้ไหม้ลามต่อเพราะบริเวณดังกล่าวมีไร่อ้อยเป็นผืนเดียวกันกว่า 200 ไร่เป็นของเกษตรกรประมาณ 10 ครัวเรือน

ชาวบ้านมารู้ตอนที่ไฟกำลังไหม้ไร่อ้อยไปแล้วประมาณ 10 ไร่ แต่ช่วงที่เกิดไฟไหม้มีกระแสลมพัดแรง ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงจากหลายพื้นที่มาช่วยระดมสกัดไฟ เวลาประมาณ 18.00 น.จึงสามารถระงับไฟเอาไว้ได้ มีไร่อ้อยได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ จาก 200 ไร่ในแปลงใหญ่ เจ้าของไร่อ้อยต่างออกมาตัดพ้อเพราะกลุ่มนี้จะใช้รถเกี่ยวอ้อย ได้ทั้งความสดและใบอ้อยเอาไปอัดก้อนส่งขายต่อโรงงานไฟฟ้า

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านด่าน และฝ่ายปกครองอำเภอบ้านด่าน เข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าต้นไฟมาจากไร่อ้อยในเขตอำเภอสตึก ซึ่งเป็นเขตติดต่อกัน โดยไร่อ้อยฝั่ง อ.สตึก ไร่อ้อยเสียหายประมาณ 90 ไร่ โดยไฟได้ลามต่อมาฝั่งไร่อ้อย อ.บ้านด่าน เสียหายอีกประมาณ 50-60 ไร่ รวมไฟไหม้อ้อยในครั้งนี้ประมาณ 150 ไร่ เกษตรกรต่างเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้เอาผิดกับคนเผาต้นไฟ

เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าสวนคำสั่งของนายปิยะ ปิจนำ ที่ได้ออกคำสั่งป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)ไปยังนายอำเภอ ปลดัอำเภอ ข้อ 1.กำนันผู้ใหญ่บ้าน จัดชุดล่าตระเวนตรวจตราในพื้นที่ ตำบลหมู่บ้าน มิให้มีการเผาอย่างเด็ดขาด ถ้าพื้นที่ใดพบการเผาให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเคร่งครัด หากปล่อยปละละเลิยไม่ดำเนินการติดตามหาผู้กระทำผิด ให้นายอำเภอดำเนินการทางวินัยกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอย่างเคร่งครัด ข้อ2.ให้อำเภอทุกแห่ง รายงานสถานการณ์ว่ามีการเผาในพื้นสที่ของหมู่บ้าน ตำบลหรือไม่ ประการใดโดยรายงานสถานการณ์ให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

อย่างไรก็ตามการติดตามหาคนเผายังเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีชาวบ้านออกไปหากินตามทุ่งนาเป็นจำนวนมาก มีทั้งจุดเผาล่าสัตว์ และจุดเผาเพื่อให้ง่ายต่อการไถนา เพราะช่วงนี้เป็นช่วยไถดะ เพื่อเตรียมฤดูการทำนาปี ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่ากลุ่มรถไถนารับจ้าง มักจะจุดไฟเผาตอซังข้าวก่อนจะทำการไถแทบทุกครั้งเพราะให้ง่ายต่อการไถ และไถนาได้รวดเร็วกว่า ไม่มีเศษฟางมาติดผานไถ