วันที่ 26 ก.ย. 2567 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น น.ส. นันทิชา อายุ 49 ปี อยู่บ้าน ม.2 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำเอกสารที่เป็นสลิปการโอนเงิน และหนังสือสัญญาซื้อขาย หนังสือยอมรับสภาพหนี้ รวมถึงสำเนาเช็คที่เป็นเช็คเด้ง พร้อมบันทึกประจำวันที่แจ้งความเกี่ยวกับเช็ค ที่เป็นเช็คเด้ง พร้อมบัตรประชาชนของนายทหารยศร้อยโท ในค่ายแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนกับนายกิติพงษ์ เบี้ยวโกฏิ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอความช่วยเหลือและ ให้ประสานคู่กรณีมาเจรจาและให้คืนเงินที่เอาไปลงทุนซื้อทอง จำนวน 1,600,000 ล้านบาท
โดยน.ส.นันทิชา กล่าวว่า ได้รู้จักกับทหารยศ สิบตรี ที่สังกัด มทบ.23 และทหารนายนี้ได้แนะนำให้รู้จักกับนายทหารยศร้อยโท ซึ่งเป็นทหารอยู่ในค่ายเดียวกัน พร้อมกับบอกว่านายทหารรายนี้ เมื่อก่อนมีหนี้สินล้นพ้นตัว จนไม่สามารถเดินถนนได้ แต่หลังจากผันตัวเองไปทำธุรกิจ ซื้อขายทอง ก็มีเงินและใช้หนี้จนหมด ทำให้มีความเป็นอยู่สุขสบาย
ซึ่งได้ทำความรู้จักกับร้อยโทรายดังกล่าว และได้พูดคุยกัน จนมีความเชื่อใจ จากนั้นในปี 2563 ร้อยโทรายนี้ได้ชวนลงทุน โดยบอกว่า อยากให้ ร่วมลงทุน ในการประมูลซื้อทองจาก ปปส. ซึ่งเป็นทองที่ ปปส.ยึดมาจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ซึ่ง ปปส.จะขายในราคาถูกกว่า ราคาทองคำที่ขายตามร้านทอง เมื่อซื้อได้ก็จะเอาทองมาขายเท่ากับราคาทองคำที่ขายตามร้านทอง โดยจะแบ่งเงินให้ในอัตรา หากลงทุนไป 150,000 บาท จะได้เงินคืน 50,000 บาท จึงตัดสินใจร่วมลงทุนด้วยครั้งแรก 150,000 บาท ก็ได้เงินมา 50,000 บาทจริง
ทั้งนี้ น.ส.นันทิชา กล่าวต่ออีกว่า เมื่อได้ส่วนแบ่งตามที่ตกลงกันไว้ ก็ไม่ได้คิดอะไร จากนั้นก็ร่วมลงทุนมาอย่างต่อเนื่องครั้งละ 300,000-700,000 บาท แต่ผ่านไปจนถึงปี 2564 ร้อยโทรายดังกล่าว ก็ไม่ได้แบ่งผลกำไรให้อีก จึงได้ทวงถาม ซึ่งได้รับคำตอบว่ารอคนที่ร่วมทุนด้วยมาแบ่งให้จากนั้นก็เงียบหายไป แต่ก็มีทักมาขอยืมเงิน จึงให้ยืมไปหลายครั้ง เพราะเชื่อใจว่า ข้าราชการทหารยศร้อยโท จะไม่เบี้ยว ไม่โกง แต่ปรากฏว่าในปี 2565-2566 นายทหารรายนี้ หายเงียบไป ติดต่อไม่ได้ จึงไปหาที่บ้านก็เจอแต่แม่บุญธรรม ซึ่งแม่บุญธรรมแจ้งว่า นายทหารยศร้อยโท หมดตัวแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว
" รู้สึกตกใจมาก จึงรวบรวมเงินที่ลงทุนซื้อทอง และเงินที่นายทหารยืมไปรวมทั้งหมด 1,600,000 บาท ตัดสินใจเดินทางไปพบที่ค่ายทหาร โดยขอเข้าพบกับผู้บังคับบัญชาของนายทหารรายดังกล่าว ผู้บังคับบุญชาจึงเรียกมาพูดคุยกัน นายทหารยศร้อยโทจึงได้เขียนเช็ค จำนวน 1,600,000 บาท ให้ว่าเป็นการใช้หนี้ จึงรับเช็คไว้ โดยกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 15 ก.ค.2567"น.ส.นันทิชา กล่าว
โดย น.ส.นันทิชา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อถึงกำหนดวันเบิกเงิน จึงนำเช็คไปเบิกเงินที่ธนาคาร ทางธนาคารแจ้งว่า เงินในบัญชีไม่พอจ่าย และน่าจะถูกหลอกลวง เพราะเช็คเด้ง จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับ ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับ นายทหารยศร้อยโทรายนี้ และได้เดินทางไปพบนายทหาร รายนี้ที่ ค่ายฯ แต่ไม่พบตัว จึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ มาร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นคนกลางในการเรียกให้นายทหารรายนี้มาพูดคุยและให้นำเงินมาใช้หนี้ให้ครบทุกบาทด้วย