วันที่ 13 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายง่นส่า เกิดเหตุเพลิงไฟไหม้คอกวัว ควาย ของชาวบ้านย่างสดคากองเพลิง 7 ตัวบาดเจ็บอีกนับ 10 ตัว เจ้าของคอกวัวน้ำตาตกไม่ทราบสาเหตุวอนหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้คอกวัวของนายสัญญา แก่นจันทร์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านจังเอิด ม.9 ต.ตรึม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ที่เกิดเหตุห่างจากหมู่บ้านประมาณ 100 เมตร เป็นกระท่อมที่ปลูกเอาไว้ให้วัวและควายอยู่รวมกันจำนวน 16 ตัว และมีอุปกรณ์การเกษตรเครื่องสูบน้ำรถไถนาและรถจยย.ที่นำมาเก็บไว้ที่กระท่อมปลายนาถูกเพลิงไหม้วอดไปหมดทั้งหมดความเสียหายยังประเมินไม่ได้
หลังจากเกิดเหตุ น.ส.จันทรา โพธิ์คำ ปศุสัตว์อำเภอศีขรภูมิ พร้อมด้วย น.ส.จารุพิชญา พิทักษ์ เจ้าพนักงานสัตวบาลชำนาญการ นายทนงศักดิ์ สมหวัง เจ้าพนักงานสัตวบาลและนายวรวิชบุตร ศรีวงศ จ้างเหมาบริการป้องกันโรคฯดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนดูแลสุขภาพโค-กระบือจากสาเหตุเพลิงไหม้พบโคทั้งหมดจำนวน 9 ตัวได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเพลิงไหม้ 2 ตัว ตาย 5 ตัว และกระบือจำนวน 7 ตัวได้รับบาดเจ็บจากเพลิงไหม้จำนวน 5 ตัว ตาย 2 ตัวในกองเพลิง รวมตาย 7 ตัว
จากกาสอบถามนายสัญญา เจ้าของบ้านบอกว่า ในวันเวลาเกิดเหตุตนเองได้ไปเกี่ยวหญ้าให้โคและกระบือกินที่ตำบลนารุ่งในระหว่างที่เกี่ยวหญ้าอยู่นั้นตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้คอกวัวที่กระท่อมปลายนาจึงได้ขับรถเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่กว่าจะมาถึงเพลิงได้ลุกไหม้คอกโคกระบือนอนตายกันเกลื่อนคอกและได้รับบาดเจ็บนอนระทมระทวยอยู่ภายในคอกตนเองไม่รู้จะทำอะไรพูดไม่ออกและเหตุที่เกิดขึ้นก็ไม่ทราบมาจากสาเหตุอะไรตนเองเสียใจมากส่วนสิ่งของที่เสียหายทั้งหมดยังประเมินค่าไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดเหุต นายพิศาล เค้ากล้า นายอำเภอศีขรภูมิ ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบและหาทางออกให้การช่วยเหลือนายสัญญาเจ้าของคอกวัวอย่างเร่งด่วนและรายงานให้ทางจังหวัดสุรินทร์ได้รับทราบพร้อมกับให้สรุปหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้มาจากสาเหตุอะไรเนื่องจากว่ากระท่อมหลังดังกล่าวไม่มีไฟฟ้าใช้และเพลิงลุกไหม้ได้อย่างไรในส่วนของการช่วยเหลือนั้นทาง อบต.ตรึม ก็ต้องเข้ามาหาข้อสรุปด้วยกัน


