วันที่ 11 ส.ค.67 นายชลเทพ ทาตรี รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 พร้อมด้วย นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามการเตรียมความพร้อมตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2567 ของ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ ณ พื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่าน บริเวณประตูระบายน้ำบ้านใหม่โพธิ์ทอง และ คันกั้นน้ำ DK1 คลองเมม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนปี 2567 อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการติดตามสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิด และวิเคราะห์คาดการณ์ฝน One Map พบว่า ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนนี้ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ซึ่งไม่มีโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่จะช่วยกักเก็บน้ำไว้ได้ ดังนั้น พื้นที่จังหวัดสุโขทัยจึงมีความเสี่ยงที่จะต้องรับสถานการณ์น้ำหลาก โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อมาติดตามความพร้อมของประตูระบายน้ำตามจุดต่างๆ ให้สามารถปรับแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพของการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งหลังวันที่ 15 สิงหาคมนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่พื้นที่ลุ่มต่ำจะต้องรับมวลน้ำหลากดังกล่าว ประกอบกับเกษตรกรได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้วบางส่วน โดย เลขาธิการ สทนช. ได้ให้ข้อเสนอแนะกับกรมชลประทานในการปรับการเพิ่มการระบายน้ำเพื่อเร่งพร่องน้ำบริเวณพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำยม เพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำเตรียมรับมือสถานการณ์ฝนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้

สำหรับแผนการผันน้ำจากลุ่มน้ำยมไปทางแม่น้ำน่าน  กรมชลประทานได้เตรียมพื้นที่ทุ่งบางระกำไว้รอรับน้ำหลาก หลังเกษตรกรได้ทำการเก็บเกี่ยวข้าวครบแล้วทุกพื้นที่ ทั้งนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินการของพื้นที่ทุ่งบางระกำที่ผ่านมา ว่า จะต้องมีการพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในการขยายพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยมให้เป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งจะต้องวางแผนการกระจายน้ำให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกเก็บเกี่ยวข้าวได้เร็วขึ้น โดยเริ่มเพาะปลูกข้าวตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนเพื่อเก็บเกี่ยวข้าวได้ทันก่อนช่วงน้ำหลากในข่วงเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ กรมชลประทานอยู่ระหว่างดำเนินการโครงการปรับปรุงคลองยม-น่าน ด้านเหนือน้ำ ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำผ่านคลองยม - น่านให้ได้มากขึ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 รวมทั้งแผน 3 ปี ให้กรมชลประทานเร่งเสนอโครงการระบบกระจายน้ำเข้าพื้นที่รับน้ำบริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำยม และโครงการเสริมคันกั้นน้ำตลอดแนวลำน้ำและคลองต่าง ๆ บริเวณจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซากของลุ่มน้ำยม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป