วันที่ 6 มิ.ย.67 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภากรุงเทพมหานคร เปิดการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปี 2567 เพื่อเลือกประธานสภากรุงเทพมหานคร และรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนใหม่ เนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง
เนื่องจากประธานสภากรุงเทพมหานคร และรองประธานสภากรุงเทพมหานคร ได้ดำรงตำแหน่งตามวาระครบ 2 ปี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามข้อบังคับการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) ได้กำหนดให้มีการเลือกประธานสภากรุงเทพมหานคร และรองประธานสภากรุงเทพมหานคร ถัดจากวันที่ประธานสภากรุงเทพมหานคร และรองประธานสภากรุงเทพมหานคร ครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ทั้งนี้ที่ประชุมได้เชิญสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ผู้มีอายุสูงสุด คือ นายไสว โชติกะสุภา ส.ก.เขตราษฎร์บูรณะ ทำหน้าที่เป็นประธานสภากรุงเทพมหานครชั่วคราว
จากนั้นประธานสภากทม.ชั่วคราว ได้ให้ ส.ก. เสนอรายชื่อ เพื่อเป็นประธานสภากทม.คนต่อไป โดยนายอำนาจ ปานเผือก ส.ก.เขตบางแค เสนอชื่อนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.ลาดกระบัง นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.บางกอกใหญ่ เสนอชื่อนายวิพุธ ศรีวะอุไร
นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน เสนอชื่อนายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.เขตหนองแขม และน.ส.รัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม เสนอชื่อนายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท โดย นายวิพุธ และ นายนวรัตน์ ขอถอนตัว ทำให้เหลือผู้ชิงเก้าอี้ประธานสภากทม. เพียง 2 คน คือ นายสุรจิตต์ และนายพีรพล
จากนั้นนายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ได้เสนอให้ผู้ชิงเก้าอี้ แสดงวิสัยทัศน์ในการทำหน้าที่ ก่อนมีการลงคะแนนอย่างเปิดเผยโดยด้วยวิธีการเสียบบัตร โดยสมาชิกได้ลงคะแนนให้นายสุรจิตต์ 36 คน นายพีรพล 12 คน งดออกเสียง 1 คน ไม่ลงคะแนน 1 คน จำนวนผู้ลงคะแนน 49 คน จากผู้เข้าประชุม 50 คน
ทั้งนี้ที่ประชุมสภากทม.มีมติเลือกนายสุรจิตต์ เป็นประธานสภากรุงเทพมหานคร (คนที่ 24) นายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก เป็นรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 1 และนายฉัตรชัย หมอดี ส.ก.เขตบางนา เป็นรองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 2
นายสุรจิตต์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร คนล่าสุด กล่าวว่า พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานสภากรุงเทพมหานคร โดยจะแก้ไขเรื่องที่ยังไม่สำเร็จในสมัยที่ผ่านมา อาทิ เรื่องของเงินคงค้าง การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ การสร้างความสัมพันธ์บ้านที่เมืองน้องกับเมืองเป้าหมายที่ยังไม่สำเร็จเพิ่มเติม ทั้งนี้เพื่อสานต่อนโยบายของประธานสภาคนเดิมให้สำเร็จ นอกจากนี้พร้อมแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และพร้อมผลักดันนโยบายใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ของทุกคน
"ขอบคุณท่านสมาชิกทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ ผมพร้อมที่จะทำงานในฐานะประธานสภากรุงเทพมหานคร กับเพื่อนสมาชิกทั้ง 50 เขต ข้าราชการและฝ่ายบริหาร เพื่อให้กทม.ที่ดียิ่งขึ้น" ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าว