นศ.สาวบุรีรัมย์กระโดดน้ำบ่อระเบิดหินเก่าเสียชีวิตเหตุเครียดเพราะเกรดต่ำกว่าเกณฑ์จนผิดเงื่อนไขการได้รับทุน

วันที่ 28 พ.ค2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีนางสาว พรธิรา หรือเอื้อง อายุ 19 ปี อยู่บ้าน ม.16 ต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นักศึกษาระดับ ปวส.ปี 2 ในจังหวัดบุรีรัมย์ กระโดด บ่อน้ำหลุมหิน(บ่อหินที่เลิกการระเบิดหินไปแล้วกลายเป็นบ่อน้ำลึก)ที่บ้านศิลาทอง ม.16 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา  ซึ่งต่อมาญาติได้ให้ข้อมูลว่าเด็กบ่นว่าอยากตายเพราะจะถูกตัดสิทธิ์การรับทุน สกศ.(ทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา)ของวิทยาลัยฯทำให้เกิดอาการเครียดจัด ประกอบกับป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานกว่า 7 ปี จึงคิดสั้น

ล่าสุดที่วัดสวายจีก ต.สวายจีก ญาติได้ทำการฌาปนกิจศพน้องแล้ววันนี้ มีคณะอาจารย์และเพื่อนนักศึกษามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของเพื่อนในคณะเดียวกัน โดย นาง ทองม้วน อายุ 62 ปี ยาย น้องเอื้อง เล่าว่าพ่อแม่น้องแยกทางกัน ตนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนหน้านี้ประมาณ 7 ปี หลานป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไปหาหมอและกินยามาโดยตลอด แต่ก่อนหน้านี้ไม่นานหลานมาบอกว่าอยากตาย เพราะเครียดเรื่องกองทุนเรียนของวิทยาลัย ส่วนตนไม่รู้ว่าทุนอะไร

ส่วน น.ส.จารุวรรณ  อายุ20ปี รุ่นพี่ในวิทยาลัย เล่าว่า น้องเป็นคนขยันตั้งใจเรียน เป็นคนร่าเริง แต่ระยะหลังมีอาการซึม ไม่คุยกับใครจนกระทั่งมารู้ว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มักจะบ่นเสมอเรื่องการเรียนที่เรียนไม่ทันเพื่อน ประกอบกับปัญหาครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน พยายามจะให้คำปรึกษาแต่น้องไม่คุยด้วย 

ด้านนายวีรวัฒน์   อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวว่าก่อนหน้านั้นน้องมีพฤติกรรมเรียบร้อยตั้งใจเรียนและเรียนดี จึงได้รับพิจารณาทุน กสศ.ช่วงแรกไม่ได้มีอะไร มาเรียนตามปกติแต่ช่วงหลัง น้องไม่สามารถประคองตัวเองมาเรียนได้ เพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในขั้นรุนแรง หมอแนะนำให้อยู่กับผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด หลังๆน้องไปเรียนไม่ได้เพราะนอนไม่หลับ นั่งเรียนในห้องไม่ได้ เนื่องจากฤทธิ์ยา

จากนั้นคณะผู้บริหารโรงเรียนได้หาแนวทางช่วยเหลือ หลังจากน้องขอดรอปการเรียน โดยจะช่วยประคองให้เรียนจบภาคเรียนก่อน ส่วนคณะอาจารย์ได้หาแนวทางช่วยเหลือ เพราะน้องเป็นเด็กทุนจะต้องประคองเกรดให้อยู่ในระดับ 3.0 ในช่วงที่ฝึกงานครูให้ฝึกงานในโรงเรียน เพื่อให้อยู่ในสายตาของอาจารย์ แต่ปรากฏว่าเกรดเทอมที่ผ่านมา ได้ผลการเรียนเพียง 2.5 ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่น้องกังวล ซึ่งคณะครูไม่เคยแจ้งว่าจะตัดทุนแต่น้องรู้กฎระเบียบก่อนรับทุนแล้ว เพราะเกณฑ์การรับทุนเป็นระเบียบของกองทุนอยู่แล้วคือเกรดเฉลี่ยต้องได้ 3.0 ขึ้นไปหรือถ้าอออกกลางคัน เรียนไม่ผ่านจะต้องคืนทุนตามกฎ ผอ.หรืออาจารย์ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ

อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวด้วยว่ามูลเหตุน้องอาจจะวิตกกังวนที่เกรดตัวเองต่ำกว่าเกณฑ์ ประกอบกับอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าระยะรุนแรง ซึ่งคณะอาจารย์ได้เตรียมการไว้แล้ว หากน้องเรียนไม่ได้จะทำเรื่องขอไม่ต้องคืนเงิน แต่ยังไม่ดำเนินการน้องมาเสียชีวิตก่อน