วันที่ 16 พ.ค.67 ที่สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 4-2 จันทบุรี  ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานและสักขีพยานการทำลายเครื่องชั่งสปริงไม่ได้มาตรฐานกว่า 600 เครื่อง  เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและพี่น้องเกษตรกร ในการซื้อ-ขายสินค้าผลผลิต และป้องกันไม่ให้มีการนำเครื่องชั่งที่ไม่ถูกต้องไปใช้งานได้อีกต่อไป

ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เครื่องชั่งสปริงเหล่านี้ เป็นเครื่องชั่งที่นายตรวจชั่งตวงวัด ได้ออกตรวจสอบตามตลาดสด/ ตลาดร้านค้าทั่วไป และจุดรับซื้อผลไม้ ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ ตราด ที่ปลูกผลไม้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้ง ทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกหลักแสนล้านต่อปี 

ทั้งนี้ ในการซื้อ-ขาย ต้องใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก ที่ถูกต้อง เที่ยงตรง โดยส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบเครื่องชั่ง สำหรับฤดูกาลที่ผลไม้มีผลผลิตออกสู่ท้องตลาด พร้อมจัดสายตรวจพิเศษ เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจเครื่องชั่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2567 เป็นต้นมา ซึ่งการดำเนินงาน ได้ตรวจไปแล้วจำนวน 998 ราย จำนวนทั้งหมด 6,714 เครื่อง ถูกต้อง 6,609 เครื่อง / ผิด 105 เครื่อง เครื่องผิดดำเนินการยึด/ผูกบัตรเครื่องชั่งตวงวัดที่พบว่าชำรุด ไม่ถูกต้อง นายตรวจชั่งตวงวัด จะทำการยึดให้เป็นของกรมการค้าภายใน เมื่อจำนวนมากพอสมควร ก็จะดำเนินการทำลาย

ส่วนวันนี้เป็นการทำลายเครื่องชั่งที่มีการยึดมาตั้งแต่ปี 2560 – 2566 จำนวน ทั้งสิ้น 696 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องชั่งที่มีสภาพชำรุดจากการใช้งาน จำนวน 552 เครื่อง 
เป็นเครื่องชั่งที่ไม่ผ่านการตรวจรับรอง จำนวน 41 เครื่อง / เครื่องชั่งมีน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 28 เครื่อง / และ เครื่องชั่งพลาสติก จำนวน 83 เครื่อง

ด้าน นางสาว พนาวรรณ คำหล่อ นักวิชาการชั่งตวงวัดชำนาญการ ทั้งนี้หากตรวจพบว่ามีการใช้ เพื่อเอารัดเอาเปรียบทางการค้า เช่น เครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐานจะยึดทันที กรณีมีประชาชนร้องเรียน มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท หากมีการทำลายเครื่องหมายคำรับรอง เพื่อดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่ง จะจับกุมดำเนินคดีซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 120,000 บาท 

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนสังเกตว่าเครื่องชั่งมีสติ๊กเกอร์ ที่รับรองการตรวจสอบจากกรมการค้าภายในหรือไม่ รวมไปถึงสังเกตเข็มตราชั่งต้องตรงที่เลข 0 ทุกครั้ง เพื่อรักษาสิทธิของตนเอง และหากพบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569