ป.ป.ช.ลงพื้นที่ อ.บ้านไผ่ สอบสวนทางลับพยานปากสำคัญ-รวบรวมข้อมูลในระดับพื้นที่คลี่คลายปมทุจริตสอบครูผู้ช่วย สพป.ขอนแก่น เขต 2

      เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 มี.ค.2567 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ขอนแก่น นายธีรัตน์  บางเพ็ชร รักษาการ ผอ.ป.ป.ช.จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า คณะทำงานด้านสืบสวนสอบสวน สำนักงาน ป.ป.ช.ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อพบกับพยาน ซึ่งเป็นผู้ที่สมัครสอบบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปี 2566 ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ได้จัดทำการสอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 19-20 ส.ค.2566 และได้ประกาศผลการสอบ ผู้ที่ผ่านการสอบและลำดับสำรองให้มารายงานตัวที่ สพป.ขอนแก่นเขต 2 ในวันที่ 28 ส.ค.2566 ทั้งหมด 44 ตำแหน่ง โดยในการสอบสวนนั้นได้รับความร่วมมือจากพยาน ซึ่งเป็นผู้ที่ทำการสอบดังกล่าวอย่างดี แต่ข้อมูลและรายละเอียดใดๆไม่สามารถที่จะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้

      “ การลงพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และพื้นที่ต่างๆของทีมสืบสวนสอบสวนของ ป.ป.ช.นั้นเป็นการเข้าพบผู้ร้องละผู้ที่ได้รับความเสียหายจากคดีดังกล่าว เพื่อหาข้อมูล และรวบรวมพยานหลักฐานทางลับตามแนวทางการดำเนินงานของ ป.ป.ช. ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ร้องและผู้เสียหาย จากการสอบครูผู้ช่วยของสำนักงาน สพป.ขอนแก่น เขต 2 โดยเฉพาะพยานปากสำคัญที่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในรายละเอียดการสอบสวนและข้อมูลต่างๆนั้นไม่สามารถที่เปิดเผยต่อสาธารณะชนและสื่อมวลชนได้”

      ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนการทุจริตสอบครูผู้ช่วยของสำนักงาน สพป.ขอนแก่น เขต 2  เริ่มดำเนินการตามโครงการป้องกันพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เนื่องจากพยานและผู้เสียหายเป็นข้าราชการครู และครูอัตราจ้างในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และบางส่วนได้ย้ายไปรับราชการที่ต่างจังหวัด เนื่องจากหลายคนเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยจากการสืบสวนสอบสวนการทุจริตดังกล่าว  โดยเฉพาะผู้ร้องฯและพยานปากสำคัญที่ส่งมอบหลักฐานการจ่ายเงิน เพื่อซื้อคู่มือการสอบ ที่ตรงกับข้อสอบให้กับ คณะกรรมการ อกคศ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 รายหนึ่ง และ ให้กับคนสนิทของประธาน อกคศ.ขอนแก่น เขต 2 เพื่อให้การสอบสวนตามการร้องเรียนดังกล่าว ทั้งในส่วนของ กระทรวง ศธ.,สพฐ,,กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และ ป.ป.ช. เป็นไปอย่างต่อเนื่องและนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป