ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า  นางสาว พันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 26 มกราคม ของทุกปี จะเป็นวันบวงสรวง เจ้าพ่อเขาใหญ่ หรือเดิมท่านชื่อ “นายจ่าง นิสัยสัตย์” เป็นคนจังหวัดนครนายก ได้รับราชการเป็นปลัดกองทัพไทย เคยผ่านสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านมามากมาย ท่านมีบุคลิกลักษณะที่สง่างามสมชาติชายทหาร ครั้งหนึ่งท่านทราบว่า ลูกน้องของท่านไปตั้งตัวเป็นโจรบนเขาใหญ่ มีการตัดไม้ทำลายป่าจนโล่งเตียน ท่านรู้สึกเสียใจที่ลูกน้องได้กระทำเช่นนั้น จึงขอร้องให้ลูกน้องเลิกและอพยพกันลงมาอยู่ข้างล่าง แต่มีโจรกลุ่มหนึ่งไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ท่านร้องขอ ทำให้ท่านกับหัวหน้าโจรต้องเผชิญหน้ากัน ณ ป่าหญ้าคาใกล้หนองขิง ผลการเจรจาไม่สำเร็จตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดต่อสู้ทำให้หัวหน้าโจรถูกยิงตาย ในยุคนั้น ท่านเป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้ความเคารพยำเกรง

นอกจากนั้น ท่านยังมีน้ำใจโอบอ้อมอารีรักพี่น้องและชอบช่วยเหลือชาวบ้านจนอายุ 75 ปี ท่านป่วยเป็นไข้ป่าและจบชีวิตลง ทำให้ชาวบ้านต่างพร้อมใจ ตั้งศาลเพียงตาไว้ให้ที่ต้นกระบกใหญ่บริเวณวัดหนองเคี่ยม จ.นครนายก เรียกศาลนั้นว่า “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” หลังจากรัฐบาลโดย ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้มีการสำรวจจัดตั้งป่าเขาใหญ่ ขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และได้มีการสร้างถนนสายธนะรัชต์ขึ้นไปยังอุทยานฯ จอมพลสฤษดิ์ ได้เกิดนิมิตฝันถึงเจ้าผู้คุ้มครองเหล่าสรรพสัตว์และป่าเขาใหญ่ จึงสั่งการให้มีการจัดตั้งศาลเจ้าพ่อขึ้นที่บริเวณ กม.23 ถนนธนะรัชต์ และได้เชิญดวงวิญญาณของท่านมาสถิตย์ไว้ และขนานนามว่า “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่”



โดยในวันที่ 26 มกราคม ของทุกปี จะมีการบวงสรวงระลึกถึงพระคุณของท่าน เพราะในวันดังกล่าวเป็นวันที่อัญเชิญท่านลงมาอยู่ในศาลใหม่นั่นเอง ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวจะรู้สึกอุ่นใจ เมื่อได้ยกมือไหว้หรือบีบแตรรถ ช่วงเวลาที่ขับรถผ่านศาลเจ้าพ่อฯ



สำหรับปีนี้ สมาคมฯ ร่วมกับ ชมรมวัฒนธรรมท้องถิ่นลูกเจ้าพ่อเขาใหญ่ ชมรมฮักเขาใหญ ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารปากช่อง ได้เชิญเหล่านางงาม อาทิ นส.มาริษา พลธิราช (กุ๊กกิ๊ก) รอง 1 นางสาวไทย 2566 นส.วิชญาดา ชาติธีรรัตน์ค้า (อิงอิง) นางสาวไทยขอนแก่น 2567 นส.พลอยชมพู ถุระพัฒน์  (แพรว) นางสาวไทยลำพูน 2566 นส.สุรารักษ์ เกียรติสูงเนิน (ลูกตาล) นางสาวไทยนครราชสีมา 2566 เข้าร่วมรำบวงสรวงเจ้าพ่อเขาใหญ่ ร่วมกับลูกหลานเจ้าพ่อเขาใหญ่จาก 3 โรงเรียนประกอบด้วย โรงเรียนบ้านคลองเดื่อ โรงเรียนบ้านปางคล้า และโรงเรียนบ้านหมูสี รวมทั้งทั้งสิ้น 150 คน



โดยมีนางรำต้นแบบ จากชมรมวัฒนธรรมท้องถิ่นลูกเจ้าพ่อเขาใหญ่ และอนุญาตให้ใช้เพลงพร้อมท่ารำในการรำบวงสรวง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของงานดังกล่าว ที่นำลูกหลานที่เป็นเด็กนักเรียน และนางงาม มารำเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของเจ้าพ่อเขาใหญ่ และยังมีกิจกรรมมอบเสบียงอาหารให้กับผู้พิทักษ์ป่า อีกด้วย