เมื่อวันที่ 9 ม.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์บนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง" เรื่อง "ดัดหลังส.ส.โหวตสวนมติพรรค"
นายเทพไท ระบุว่า "ใครจะว่ารัฐธรรมนูญ ฉบับปีพ.ศ. 2560 ดีเลิศวิเศษอย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่ายังมีข้อบกพร่องอีกมากมาย ผมตัดสินใจไม่ผิดเลย ที่ลงมติไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะปัญหาที่เห็นอยู่ในขณะนี้ก็คือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เอกสิทธิ์ส.ส.มากเกินไป จนทำให้มี ส.ส.หลายคน จงใจฝ่าฝืนมติพรรค ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ คนที่เป็น ส.ส.ไม่ให้สำคัญกับพรรคการเมือง เพียงแต่อาศัยพรรคการเมืองสังกัด เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งให้ได้รับเลือกเข้ามาเป็น ส.ส.ให้ได้ก่อน เมื่อเป็นส.ส.แล้ว มักจะอ้างเสียงความต้องการของประชาชน หรืออ้างทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้าง โดยไม่สนใจมติพรรค เพราะการฝ่าฝืนมติพรรค ถูกลงโทษก็แค่ขับออกจากสมาชิกพรรค ค่อยไปหาพรรคการเมืองสังกัดใหม่ภาย 30 วัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งเป็นความต้องการของพวกส.ส.ที่ต้องการย้ายพรรคตามใจชอบอีกด้วย"
"ผมคิดว่าในประเด็นนี้ ควรจะมีการถ่วงดุลกันระหว่างเอกสิทธิ์ของส.ส.กับความศักดิ์สิทธิ์ของมติพรรค นั่นก็คือส.ส.คนใดถูกขับออกจากพรรคต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค และพ้นจากสมาชิกภาพส.ส.ด้วย ถ้าส.ส.คนใดเห็นว่ามติพรรคให้ขับออกไม่ชอบธรรม สามารถใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาลได้ มิฉะนั้นจะมีส.ส.จำนวนหนึ่ง เมื่อไม่พอใจพรรคการเมืองที่ตนสังกัด ก็จะหาเรื่องให้พรรคขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แล้วค่อยไปหาพรรคสังกัดใหม่ ซึ่งผิดกับสมัยปี พ.ศ.2518 ที่มี ส.ส.พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย จำนวน 3 คนโหวตสวนมติพรรค ถูกประจานด้วยการจารึกชื่อไว้บนหนังหมา"
"รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ทำลายความเข้มแข็งของพรรคการเมือง และทำให้การเมืองอ่อนแอ มีการซื้อขายส.ส. และแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมืองกัน เกิดวัฒนธรรมแจกกล้วยกันอย่างโจ่งครึม ผมคิดว่าจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญปี 2560 มีมากมายหลายประเด็น ขอฝากไปยังสสร.ชุดใหม่ที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ได้ศึกษาแก้ไขปรับปรุงจุดอ่อนให้หมดไปด้วย"
#เทพไทเสนพงศ์ #เทพไทเสนพงศ์คุยการเมือง #โหวตสวนมติพรรค #รัฐธรรมนูญ