นายกฯ ห่วงสถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่ภาคอีสานบางส่วน สั่ง ‘ธรรมนัส’ ติดตามอย่างใกล้ชิด เผยอีก 10 วันจะลงพื้นที่อุบลราชธานี

เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 27 ก.ย.66 ที่กรมชลประทาน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินทางมาติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประพิศ อธิบดีกรมชลประทาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดยนายกฯ รับฟังการรายงานสรุปปริมาณน้ำภาพรวมของประเทศ ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำที่น่าเป็นห่วงคือ จ.อุบลราชธานีและพื้นที่ภาคอีสานบางส่วน ขณะที่กรมชลประทานได้ดำเนินการพร่องน้ำแล้ว

อธิบดีกรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์ว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ทั่วประเทศยังมีปริมาณน้อยกว่าปี 2565 ซึ่งปริมาณน้ำใช้การได้ทั้งประเทศในปี 2566 ขณะนี้มีอยู่ที่ราว 2,500 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) น้อยกว่าปี 2565 ถึง 5000 กว่าล้าน ลบ.ม. ซึ่งอ่างเก็บน้ำ และเขื่อนหลักทั่วประเทศ ยังสามารถรับน้ำได้อีกมากถึง 2600 ล้านลบ.ม. ทั้งนี้ ปริมาณน้ำใช้ได้ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำที่ต่ำกว่าเกณฑ์ 30% ของความจุอ่าง 6 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำปราณบุรี, อ่างเก็บน้ำกระเสียว, อ่างเก็บน้ำทับเสลา, อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์และอ่างเก็บน้ำภูมิพล ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยังไม่ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในพื้นที่ภาคตะวันออก

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า เป็นห่วงอย่างยิ่งต่อสถานการณ์น้ำ ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำมีค่อนข้างมาก แต่ยอมรับว่าจะต้องกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงปลายฤดูด้วย รวมทั้งสั่งการให้ ร.อ.ธรรมนัส ดูแลอย่างใกล้ชิด วางแผนระยะกลางและระยะยาวเพื่อดูแลสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตนเป็นห่วงสถานการณ์น้ำโดยเฉพาะในพื้นที่อุบลราชธานี เนื่องจากได้รับรายงานจาก สส.ในพื้นที่ว่าขณะนี้มีปริมาณน้ำที่ค่อนข้างมาก ซึ่งอีก 10 วัน ตนจะลงพื้นที่อุบลราชธานี เพื่อไปติดตามสถานการณ์น้ำ

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่จ.อุบลราชธานี เกิดจากปัญหาการระบายน้ำบริเวณแก่งสะพือ ซึ่งต้องทำบายพาสแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ ร.อ.ธรรมนัส เร่งแก้ปัญหานี้ เนื่องจากรู้ปัญหานี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนในปีนี้ตกช้ากว่ากำหนดไปประมาณ 1 เดือน หวังว่าฝนจะตกช้าไปอีก 1 เดือน เพื่อให้เก็บน้ำได้

อธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงอีกว่า จากการรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ฝนจะตกถึงช่วงสิ้นเดือนต.ค.นี้เท่านั้น หากจะตกก็จะตกอยู่ที่บริเวณท้ายเขื่อน ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ขณะเดียวกันมวลฝนจะเคลื่อนที่ไปยังภาคใต้ ซึ่งในส่วนพื้นที่จ.เพชรบุรี ไล่ลงไป ได้เตรียมการรับมือน้ำท่วมน้ำหลากไว้แล้ว

โดย นายกฯ ได้สอบถามว่าพื้นที่ภาคตะวันออกขณะนี้มีปัญหาเรื่องน้ำหรือไม่ อธิบดีกรมชลประทาน บอกว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากได้ระบายน้ำ ส่วนเกินจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองไชยยานุชิด ไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี ซึ่งนายกฯ ได้ถามย้ำอีกครั้งถึงภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำทั้งหมด โดยเน้นที่จังหวัดภาคอีสาน ปัญหาซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่มีปัญหาเช่นกัน

จากนั้น นายกฯ ได้มอบนโยบายให้ข้าราชการกรมชลประทานทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์ พร้อมขอบคุณที่ทุกคนช่วยกันระวัง ซึ่งตนเป็นห่วงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ แต่ก็เข้าใจเป็นเรื่องที่ควบคุมยาก ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ขอฝากกรมชลประทาน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังทุกช่วงเวลา เข้าใจว่าทุกคนทำงานหนัก ขอให้ทุกคนทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากสถานการณ์น้ำก็สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ และการเกษตร ซึ่งตนคงไม่ต้องย้ำอะไรมาก เพราะทุกคนต่างเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่ขอให้เข้าใจว่าหากมีรัฐมนตรีมากวดขัน ก็เพราะมาจากตนสั่งการ พร้อมขอให้วางแผนระยะกลาง ระยะยาว ซึ่งตนจะติดตาม และลงพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น