วันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศาลาการเปรียญ วัดบูรพ์ เขตเทศบาลนคร ( ทน.) นครราชสีมา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา พร้อมนายไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ รองนายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา รวมทั้งคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ ร่วมเปิดการอบรมและรณรงค์ป้องกันโรคนำโดยยุงลายครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 เพื่อควบคุมและกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายและให้ความรู้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำชุมชน (อสม.) พร้อมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในการป้องกันโรคนำโดยยุงลายภายในชุมชน มีการเดินรณรงค์ Kick off กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และล้างทำความสะอาดบริเวณวัด และชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง
ด้านนายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในเขตสุขภาพที่ 9 ในสัปดาห์ที่ 35 คือ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 9 กันยายน 2566 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 6,308 ราย อัตราป่วย 93.97 ต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 0.06 สามารถแยกสถานการณ์เป็นรายจังหวัด ดังนี้ 1) จังหวัดสุรินทร์ พบผู้ป่วย 2,314 ราย อัตราป่วย 168.14 ต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย 2) จังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วย 1,975 ราย อัตราป่วย 74.98 ต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย 3) จังหวัดชัยภูมิ พบผู้ป่วย 1,013 ราย อัตราป่วย 90.26 ต่อประชากรแสนคน 4) จังหวัดบุรีรัมย์ พบผู้ป่วย 1,006 ราย อัตราป่วย 63.68 ต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุดคือ อายุ 10-14 ปี รองลงมาคือ 5-9 ปี และ 0-4 ปี ตามลำดับ
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ตามมาตรการ 3 เก็บป้องกัน 3 โรค ได้แก่ เก็บบ้าน ให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก เก็บภาชนะกักเก็บน้ำ ให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เก็บขยะ ภายในบริเวณบ้านและโรงเรียน ให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย จะป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลายได้ 3 โรคคือโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
ซึ่งหากประชาชนมีอาการไข้สูงลอย ร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา หน้าแดง กระหายน้ำ หรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว และแขน ขา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโครฟีแนก แอสไพริน รวมถึงยาชุด มีผลทำให้เลือดออกในทางเดินอาหารและยากต่อการรักษา เสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือรับประทานยาหรือเช็ดตัวแล้วไข้ไม่ลด หรือลดแล้วไข้กลับมาสูงอีก ควรรีบไปพบแพทย์ หากสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422


