วันที่ 6 ก.ย. 66 ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส และผศ.ดร.วรวิทย์ บารู สส.ปัตตานีพรรคประชาชาติ และคณะ แถลงถึงกรณีที่พรรคประชาชาติถูกยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค เนื่องจากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวการทำประชามติเรียกร้องเอกราชปัตตานี ร่วมกับกลุ่มขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar Bangsa) นั้น  ขอชี้แจงว่า จากกรณีดังกล่าว เป็นการจัดงานเวทีของขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar Bangsa) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 66 เพื่อทำเวทีประชามติแบ่งแยกดินแดน ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ทางพรรคประชาชาติไม่ได้เป็นผู้ร่วมจัดงานแต่อย่างใด แต่ได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรบนเวทีในช่วงบ่าย

ทางพรรคได้มอบหมายให้ ผศ.ดร.วรวิทย์ ซึ่งเป็นอดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี เป็นวิทยากรร่วมเสวนา เรื่อง “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination) กับสันติภาพปาตานี” โดยไม่ได้กล่าวหรือพูดถึงการทำประชามติเกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดนแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าช่วงเช้าของวันนั้นมีการจัดทำประชามติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อีกทั้งนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์และเป็นข่าวก่อนหน้านี้ก็ได้ไปชี้แจ้งต่อฝ่ายสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว

นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า ทางพรรคและผศ.คร.วรวิทย์ ไม่ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หรือแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความผิดฐานล้มล้างการปกครอง หรือการปลุกระดมใด ๆ ทั้งสิ้น ทางพรรคประชาชาติขอยืนยันว่าการดำเนินกิจการของพรรคตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ได้สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีนโยบายภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำฟ้อง พรรคก็พร้อมชี้แจง ข้อเท็จจริงเช่นกัน

ด้านผศ.ดร.วรวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับเชิญจากผู้จัดงานให้ร่วมเป็นวิทยากร ในกิจกรรมสัมมนาหัวข้อ “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination) กับสันติภาพปาตานี” ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลในเชิงวิชาการ และเป็นองค์ความรู้หนึ่งของผู้ที่เรียนรู้เกี่ยวกับความมั่นคงและการจัดการความขัดแย้งตามแนวทางสันติวิธี นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าพรรคประชาชาติ จะอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็มีสมาชิกจากทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลามเพียงอย่างเดียว

รวมทั้งได้เดินทางไปให้ข้อมูลต่อฝ่ายสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว และไม่เคยได้รับการเชิญหรือเรียกตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด อีกทั้งการเสวนาดังกล่าวยังเป็นไปในเชิงวิชาการ จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะมีการพูดคุยในประเด็นการแบ่งแยกดินแดนตามที่ถูกกล่าวหา