ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2566 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร นำโดยร้อยตรีสัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร ได้รับรายงานหลังรับแจ้งว่า เกิดเพลิงไหม้ที่อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น รวม 5 คูหาติดต่อกัน ที่บริเวณริมถนนพระราม 2 (หลัก กม.ที่ 37+700) ในพื้นที่ ต.บางกระเจ้า อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า ขณะนี้เปิดเป็นร้านจำหน่ายขายสินค้าต่างๆ (ทุกอย่าง 20 บาท) และสิ่งของอุปกรณ์ในครัวเรือนฯ ทั้งนี้จากการสำรวจสอบที่ตั้งถูกเพลิงไหม้ ปรากฏว่า เป็นบ้านเลขที่ 116, 119, 119/1, 119/2 และ 119/3 ในหมู่ที่ 9 จากการตรวจสอบเพื่อหาผู้เป็นเจ้าของอาคารดังกล่าว อยู่ในความครอบครองของ บริษัทมารวยเครื่องครัว จำกัด

โดยในที่เกิดเหตุพบมี ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร มาบัญชาการในเหตุไฟไหม้ตึก 5 คูหา โดยมีรถดับเพลิงและ จนท. ประมาณ 10 คันจาก เทศบาลนครสมุทรสาคร, อบต.บางกระเจ้า, ทต.บางปลา, ทต.บางหญ้าแพรก, อบต.พันท้ายนรสิงห์, อบต.บ้านเกาะ, เทศบาลบางปลา, ทต.นาดี และ อบต.ชัยมงคล และตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร มาร่วมช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรที่ริมพระราม 2 ฝั่งขาออก ซึ่งใช้เวลาฉีดน้ำเพื่อทำการสกัดไฟไม่นานนักก็สามารถหยุดเพลิงไว้ได้
ส่วนสาเหตุและต้นตอการเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้น อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ฐานะเจ้าของคดี กำลังสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และติดต่อหาเจ้าของอาคารที่เสียหายต่อไป
ขณะที่ด้านความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น จำนวน 5 คูหา พบว่า เสียหายต่างกันและเสียหายเฉพาะบางส่วน และอาคารบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน สูง 2 ชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ที่อาศัยเป็นที่ใช้เก็บสินค้า (ทุกอย่างราคา 20 บ.) ในส่วนอาคารที่ระบุว่าเป็นของ บ.มารวย เครื่องครัว จก. ได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยจะต้องติดตามหาละเอียดและเช็คค่าความเสียหายต่อไป ทั้งนี้โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
“ซึ่งขณะช่วงเกิดเหตุในครั้งนี้ไม่มีผู้พักอาศัยและไม่ได้รับผลกระทบอื่นๆ เนื่องจากเพราะเป็นวันวันหยุด (วันอาทิตย์) ขณะปิดทำการของบริษัทฯ
ทั้งนี้ทางด้าน สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ประสานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป”

