ร้านอาหารดังระยองตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สูญเงินครึ่งล้าน มิจฉาชีพทำทีจัดงานเลี้ยง ส.ส. ออกอุบาย ให้สั่งไวน์ยี่ห้อดังให้คนในงาน ขวดละ 1.9 แสนบาท ทางร้านไม่มี มิจฉาชีพจึงแนะนำร้านซึ่งเป็นขบวนการเดียวกัน สุดท้ายหลงเชื่อ เพราะมีการส่งสลิปโอนเงินมาให้ดู เลยโอนเงินไปให้ร้านไวน์ที่เป็นกลุ่มเดียวกัน กว่าจะรู้ตัวสูญเงินไป 4.9 แสนบาท สุดเซ็งธนาคาร และ ตำรวจ โยนลูกกันไปมา ทั้งที่มีชื่อบัญชี และ เบอร์โทรชัดเจน จึงต้องการให้จับตัวมาดำเนินคดีถึงจะเป็นบัญชีม้าก็ตาม
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางปิยะฉัตร สแตมบัค อายุ 66 ปี เจ้าของร้านอาหาร เดอะไวท์เฮาท์ 41/60 ม.10 หมู่บ้านเอนก ริมหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง กรณีถูกแก๊งมิจฉาชีพ เข้ามาหลอกให้สูญเงินไป 432,000 บาท โดยได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง ระยอง เมื่อวันที่ 19 ส.ค.66 พร้อมทั้งแจ้งทางธนาคาร ที่โอนเงิน และ ธนาคารของมิจฉาชีพ ที่ใช้รับโอนเงิน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โยนกันไปมาระหว่างตำรวจกับธนาคาร
นางปิยะฉัตร ได้เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 19 ส.ค.66 ได้มีผู้หญิง โทรศัพท์สอบถามว่าจะขอจัดงานเลี้ยงในนามบริษัท ในเวลา 18.30 น.วันที่ 19 ส.ค.66 หลังจากนั้นได้มีการขอแอดไลน์ของตนเอง โดยใช้ไลน์ชื่อ"Chuthima" แล้วก็มีการสั่งอาหารจำนวนหลายรายการ มีการเปลี่ยนแปลงรายการอาหารหลายคนั้ง เสมือนทำให้วุ่นตลอด หลังจากตกลงกันได้ ทาง"Chuthima" ได้ทำการส่งสลิปธนาคาร โอนเงินค่าอาหารจำนวน 14,319 บาท มาให้ดูทางไลน์ แต่ยังไม่ทันตรวจสอบ ปรากฎว่า ได้มีการสั่งไวน์ ยี่ห้อที่มีราคาสูง แต่ทางร้านไม่มี ทาง"Chuthima" บอกว่าไม่ได้ ส.ส.และ แขกจะต้องดื่มไวน์ระดับนี้เท่านั้น พร้อมทั้งแนะนำร้านที่มีไวน์ยี่ห้อดังกล่าวขายจำนวนมาก โดยให้แอดไลน์ไปที่ไลน์ และแจ้งว่า หากตกลงซื้อขายกันได้แล้ว ให้แจ้งยอดเงินจะโอนเงินไปให้ หลังจากแอดไลน์ไปที่ร้านไวน์ดังกล่าว เมื่อสอบถามถึงยี่ห้อไวน์ ที่ลูกค้าต้องการปรากฎว่ามีครบ แล้วทางร้านยังยินดีรับคืนสินค้าทั้งหมด เบื้องต้นหลังจากตกลงราคากันจบ จึงแจ้งราคาไปให้"Chuthima" ทราบราคา และ ก็ตอบกลับว่าพร้อมจะโอนเงินให้ทันที ตนเองจึงโอนเงิน ซื้อไวน์ไปทั้งหมด 432,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 2 ธนาคาร
หลังจากที่โอนเงินไปแล้ว รู้สึกว่าผิดปกติ เพราะตรวจสอบยอดเงินทั้งหมด ยังไม่เข้าบัญชี จึงสอบถามไปยัง"Chithima" ได้คำตอบพร้อมให้เบอร์โทรติดต่อผู้จัดการฝ้ายบัญชี โทรไปไม่มีการรับสาย จนต่อมาได้มีสายโทรเข้ามา เป็นผู้ชายบอกว่าเป็น ผจก.ฝ่ายบัญชี พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า ไม่ต้องกังวล ถ้าเงินไม่เข้าจะจ่ายเป็นเงินสดให้ แล้วยังบอกว่ากำลังจะไปที่ร้าน เตรียมเบิกเงินสดไปให้ ส่วนทางร้านไวน์ ได้โทรกลับมาแจ้งว่าต้องจ่ายค่าไวน์ที่เหลือทันที จึงแจ้งว่าพนักงานอยู่ที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ให้ส่งที่ตั้งร้านมาให้ จะให้พนักงานเข้าไปที่ร้าน ทางร้านก็เงียบไป และก็ไม่สามารถคิดต่อใครได้อีกเลย ในตอนแรกยังคิดว่าโอนเงินค่าไวน์ไปผิด จึงติดต่อทางธนาคาร แต่ทางธนาคารให้ไปแจ้งความ ก่อน จึงจะตรวจสอบข้อมูลได้ จึงรีบไปแจ้งความ พอแจ้งความเสร็จ ทางธนาคารตรวจสอบ พบว่า เป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ให้รับแจ้งความใหม่ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน เพราะมีการโอนเงินหลายครั้ง จำนวนครั้งละ 49,999 บาท เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบใบหน้า
นางปิยะฉัตร เปิดเผยต่ออีกว่า หลังจากที่ทราบว่าถูกหลอกโดยกลุ่มมิจฉาชีพ ที่มีตัวละครทั้งหมด 3 คน คนติดต่อ ร้านไวน์ และ ผจก.ฝ่ายบัญชี โดยใช้วิธีการร่วมกันรับลูก โทรเข้ามาทำให้วุ่นวายกับการเปลี่ยนรายการอาหาร และ ห่อขวดไวน์เป็นของขวัญ จนทำให้ไม่มีเวลาตรวจสอบบัญชี พอรู้ตัวก็สายไปแล้ว จึงเป็นอักหนึ่งอุทาหรณ์เตือนผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งทราบว่าถูกมิจฉาชีพหลอกในรูปแบบเดียวกันจำนวนหลายร้านด้วยกัน พร้อมทั้งตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรจะต้องใส่ใจและฉับไวมากกว่านี้ ไม่ใช่โยกเรื่องกันไปมา ธนาคารก็เช่นกัน ในเมื่อรู้ว่าการเปิดบัญชีเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพ แต่กลับไม่ใส่ใจในการตรวจสอบ และ ควรจะมีการตรวจสอบที่เข้มงวดกว่านี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ หากเห็นการโอนเงินที่ผิดปกติก็ควรจะต้องมีการตรวจสอบทันที พอเกิดเรื่องกลับไม่สามารถเปิดเผยอะไรกับผู้เสียหายได้เลย ทั้งที่ต้องสูญเสียเงิน ขอฝากให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรจะต้องเร่งปราบปรามป้องกัน ไม่ใช่ปล่อยผ่านจนเกิดความเสียหายขึ้นมาตลอด นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น

