กลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อ"บิ๊กจ๋อ"พล.ต.ต.ธีรเดช
ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีและชื่อเสียง จากการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติ
ราษฎร์ หลังยื่นฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ต่อศาลอาญา ในฐานความผิดฐาน แจ้งความเท็จหมิ่นประมาท  แกล้งฟ้องให้ต้องรับโทษ   เป็นเหตุทำให้ได้รับความเสียหาย  จึงต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตนในฐานะผู้เสียหาย  และมอบให้ทนายความยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลอาญา โดยศาลอาญาได้พิจารณานัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางประชาชนที่ชื่นชอบ  การปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามผู้ทำความผิด ทราบข่าวต่างพากันเดินทางมามอบช่อดอกไม้และให้กำลังใจอย่างล้นหลามต่อหน้าสื่อมวลชนหลายสำนัก
"บิ๊กจ๋อ"พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวยืนยันว่าเรามีพยานหลักฐานชัดเจน ประกอบกับหลักฐานอื่นๆ อีกมาก มาย ไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันว่าถึงการทำงานทุกครั้งได้กำชับสั่งการให้ชุดสืบสวนทำงานอย่างชัดเจน ประกอบกับคดีนี้ซึ่งก่อนหน้าที่ จะมาดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล  ตอนนี้เป็นการต่อสู้กับขบวนการดิสเครดิต ที่หวังยืมมือสื่อเพื่อทำลายชื่อเสียง ซึ่งเราพร้อมที่จะดำเนินคดีกับทุกคนที่มากลั่นแกล้งกัน ใครทำอะไรไว้ขอให้รอรับผลกรรมนั้น เพราะว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ของการกระทำ
"บิ๊กจ๋อ"พล.ต.ต.ธีรเดช  กล่าวขอบคุณประชาชนที่มามอบดอกไม้และให้กำลังใจ ยืนยันถึงในส่วคดีนี้ ว่าส่วนตัวไม่มีความกังวลใจใดๆ ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จะเดินหน้าทำงานปราบปรามต่อไป
เพื่อความสงบสุขส่วนรวม ของพี่น้องประชาชนและสังคมของบ้านเมืองวันนี้เราออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองแล้ว ยังเป็นการออกมาปกป้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  การยื่นฟ้องคดีนี้ได้มอบหมายทนายความดำเนินการ ตามขั้นตอนของกระบวน
การยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมาย และนัดไต่สวนคำฟ้องวันนี้ จำเลยขอเลื่อนคดี โดยให้เหตุผล เนื่องจากจำเลยอยู่ระหว่างจัดหา ทนาย
ความมาต่อสู้คดี  เพื่อให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ผมจึงไม่ค้าน ​​​​​​​
ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ โดยเฉพาะพี่น้องข้าราชการตำรวจ และผู้เสียหายคดีที่ตนเคยช่วยเหลือให้ได้รับความเป็นธรรม ยืนยันการยื่นฟ้องครั้งนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล   หรือหนักใจอะไร ผมมีหลักฐานชัดเจนในการปฏิบัติหน้าที่  ขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายทำงานเพื่อประชาชนต่อไป  ในส่วนเรื่องของคดีนี้ผมขอมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของทนายความ.. ​​​​​​​ ​​​​​​​เพราะผมยึดหลักการทำงานเสมอว่า"ไม่คบหา ก็ไม่รู้ว่าใครดีใครร้าย  ไม่เกิดเรื่อง ก็ไม่รู้ว่าใครจริงใจใครเสแสร้ง ไม่ดื่ม ก็ไม่รู้ว่าแก้วไหนร้อนแก้วไหนเย็น ไม่หมดผลประโยชน์ ก็ไม่รู้ว่าใครยังอยู่ใครจากไป ไม่ตกต่ำ ก็ไม่รู้ว่าใครมิตรแท้ใครมิตรเทียม"  ขอให้ลูกศิษย์ของอาจารย์ "จ๋อ" จดจำไว้ว่าเราคือนักสืบมืออาชีพ