หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ยึดมั่นในระบบรัฐสภา ไม่ศรัทธาการเมืองนอกสภา ...*...
เป็นอีกก้าวสำคัญ ของ พรรคก้าวไกล โดยผู้นำ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร่วมกับอีก 7 พรรค ที่ ร่วมลงนาม เอ็มโอยู ว่า จะจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค 313 เสียง ที่ เพียงพอต่อการบริหารประเทศ เป็นเหตุเป็นผล ที่เหลืออีก 187 เสียง ให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพียงพอที่จะ คานอำนาจกันได้ มากไปกว่านี้จะกลายเป็น เผด็จการรัฐสภา เหมือนอดีตที่ผ่านมา นำพาการเมืองลงถนน แบ่งข้างประชาชนสองฝักสามฝ่าย วุ่นวายไม่รู้จบ บารอน เขียนวิงวอน ทุกฝ่ายต้องเคารพกติกาประชาธิปไตย และ เชื่อมั่นการเมืองในระบบรัฐสภา ...*...
โดยเฉพาะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาไกลเกินฝัน ก้าวต่อไป จะเหยียบบันไดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ที่นี่ บารอน ว่าเข้าไปถ้ำเสือ ขอคะแนนที่เหลือ 63 เสียง จาก สมาชิกวุฒิสภาให้ได้ ด้วยวิธีการ ประสานขอความร่วมมือด้วยดี อย่าไปใช้วิธี สร้างม็อบกดดัน เพราะมันไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย ที่หลักการ ต้องรับฟังความเห็นต่าง เป็นตัวอย่างดีๆ ที่นักการเมืองรุ่นพี่ๆไม่มีกัน ...*...
แม้ในที่สุด ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะหลุดมือไป เพราะ เสียงสนับสนุนไม่ถึงครึ่งหนึ่ง หาก 313 เสียงยังเกาะกลุ่มเหนียวแน่นไว้ ก็แค่ ใช้ความพยายามล็อบบี้ต่อไป มั่นใจเมื่อไหร่ ให้รัฐสภาโหวตอีกที ...*...
หรือ ยอมให้พรรคเพื่อไทย พรรคใหญ่อันดับสอง 141 เสียง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบ้าง ซึ่ง ก็เป็นวิถีทางประชาธิปไตยแม้จะไม่เอาก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ที่นี่ บารอน ว่า จะเป็นฝ่ายค้านอีกสมัย ไม่เห็นเป็นไร เลือกตั้งอีกเมื่อไหร่ ก้าวไกลแลนด์สไลด์ของจริงแน่นอน ไม่เชื่อลองถาม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อยากเป็นฝ่ายค้านมากกว่าเป็นรัฐบาล...*...
เขียนถึง เอ็มโอยู 8 พรรค นำโดย พรรคก้าวไกล ที่นี่ บารอน หลงเข้าใจผิด คิดว่าเป็นบันทึกข้อตกลงร่วมรัฐบาล ที่ไหนได้ กลายเป็นนโยบาย 23 ข้อ ของ 8 พรรคการเมือง ที่จะ ใช้เป็นแม่บทบริหารราชการแผ่นดิน ที่ บารอน อยากเห็นเป็นรูปธรรมทันที คือ ข้อที่สอง ที่ระบุว่า จะแก้ไขทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง ไม่อยากเห็น รัฐบาลที่พายเรือให้มหาโจรปล้นแผ่นดินนั่ง เหมือนที่แล้วๆมา พิธา ทำได้ ก็ต้องขออนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ ...*...
แต่ที่ไฮไลท์สุดๆ ไม่อยู่ที่ เอ็มโอยู แต่อยู่ที่ คำปรารภ 8 พรรคร่วมรัฐบาล เห็นพ้องต้องกันว่า ทุกพรรคจะร่วมผลักดันทุกภารกิจ ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐ และ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ การดำรงอยู่ในสถานะอันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์ คำปรารภที่เป็นข้อตกลงร่วม 8 พรรค ท่านว่าที่นายกฯพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังจะดึงดันให้ พรรคก้าวไกลแก้ไข ม.112 ได้อย่างไร ผิดเงือนไขข้อตกลงร่วม 8พรรคร่วมรัฐบาลนะครับ ...*...
จะเป็นปลาตายน้ำตื้นหรือเปล่า ยังไม่รู้ คือ เรื่องถือหุ้นสื่อไอทีวี ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ถูก นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทำหนังสือร้องเรียนไปถึง กกต. ต้องรอให้ กกต.รับรอง ส.ส. เมื่อไหร่ ขั้นตอนต่อไป กกต.ต้องพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประสา บารอน ไม่หยั่งรู้ได้ว่า จะออกหัวหรือออกก้อย ก็คอยตามตามดูต่อไป แต่พอเทียบเคียงได้ เข้าข่ายการถือสื่อหุ้นสื่อ ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี เพราะ มีหุ้นสื่อ แม้ จะไม่มีการดำเนินการแล้ว แต่ จุดประสงค์ทำสื่อในทะเบียนการค้ายังอยู่ จะดำเนินการอีกเมื่อไหร่ก็ได้ ...*...
อีกข้อร้องเรียน ของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่กล่าวหาว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ ไปลงนามรับรองผู้สมัคร ส.ส.พรรค ควรเป็นเหตุให้ โมฆะทั้งหมด ประสา บารอน มีความเห็นว่า ไม่น่าจะผิด คิดว่า กกต.น่าจะยกคำร้องข้อนี้ เพราะในขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลงนามรับรอง ในขณะนั้น ยังไม่มีการร้องเรียน จึง ยังไม่มีความผิดเกิดขึ้นใดๆ ...*...
“บารอน” ก็ศิษย์เก่าลูกพ่อขุน ขอสนับสนุนแถลงการณ์ ของ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการทางการเมือง ตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ เพื่อ ป้องกันความขัดแย้งรุนแรง และ ไม่สนับสนุนการบีบบังคับความเชื่อ อุดมการณ์ หรือ ผลประโยชน์ ซึ่ง จะนำไปสู่การขัดต่อกรอบคุณลักษณะของประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่นี่ บารอน ขอสรุปอีกครั้ง ให้ทุกอย่างจบในรัฐสภา ด้วยกติกาประชาธิปไตย ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ ทุกคนทุกฝ่ายใช้เป็นกติกาเดินเข้ารัฐสภาอันทรงเกียรติ
ที่มา:บารอน (24/5/66)