วันที่ 11 เมษายน 2566 ที่ จ.สระบุรีต่าง พากันมายื่นหลักฐานสมัครกันตั้งแต่เช้าตรู่ (วันที่ 3 เม.ย.2566) จับสลากได้เบอร์กันไปหมดแล้วตั้งแต่วันแรก มีผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆ จำนวน 8 พรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยภักดี พรรคภูมิใจไทยพรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นตามไปดูกัน 4 เขต ของ จ.สระบุรีมีใครเป็นตัวเก็งกันบ้างซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าว “ย้ายพรรค/ย้ายเขตเลือกตั้ง” กันวุ่นวายต่างลงตัวสมัครกันหมดแล้ว และที่จะเอ่ยถึงต่อไปนี้คือคู่ต่อสู้ที่คอการเมืองคาดหมายกัน ส่วนผู้สมัครพรรคใด คนใดที่ไม่ได้เขียนถึง “คงไม่ว่ากัน”
ข้อมูลเดิม จ.สระบุรี มี 3 เขต เลือกตั้ง อดีต ส.ส.เก่า ครั้งที่แล้ว เขต 1 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย (ส.ส.นก) พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 นายสมบัติ อำนาคะ พรรคพลังประชารัฐ และเขต 3 นายองอาจ วงษ์ประยูร พรรคเพื่อไทย แต่มาครั้งนี้ จ.สระบุรี ได้ ส.ส.เพิ่มอีก 1 คน จึงมีเขตเลือกตั้ง เป็น 4 เขต (ส.ส.เก่า) ยังคงลงรับสมัครรับเลือกตั้งเหมือนเดิมทุกคน แต่ (บางคน) ย้ายพรรค ไปตามกระแสลมการเมือง หรือแล้วแต่ ผู้มากบารมีจะชักใย อยู่เบื้องหลัง (บางพรรค) เปิดตัวผู้สมัครออกสื่อไปหมดแล้วในแต่ละเขต แต่เมื่อถึงเวลาผู้สมัครรายนั้น กลับไม่ได้ลง ผู้สมัครที่ได้ลงกลับกลายเป็นคนสนิทของผู้ใหญ่ หรือ พี่ชายอยู่พรรคหนึ่ง น้องชายไปอยู่อีกพรรคหนึ่ง นี่หรือที่โพนทะนากันว่า ไม่มี “ดีลกัน” เป็นไปได้ทั้งนั้นเมื่อสมประโยชน์กันได้คือ “การเมือง”
ที่เขต 1 จุดศูนย์กลางของจังหวัดเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องเรียกได้ว่า “ศึกสองนางพญา” มันส์ปรอทแตกแน่ เพราะ ผู้สมัครเป็นหญิงสาว โปรไฟล์ ดีทั้งคู่ ผู้สมัคร หมายเลข 2 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย อดีต ส.ส.สระบุรี หลายสมัย ยังคงจงรักภักดีอยู่กับลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ คู่ชิงที่สุดสูสี ผู้สมัครหมายเลข 8 น.ส.ขานิฐาณันท์ เทียมประเสริฐ(ส.ส.กล้วย) จากพรรคเพื่อไทย คนใกล้ตัว (บิ๊กจ้อน) นายสัญญา บุญหลง นายก อบจ.สระบุรี ที่เบียดนายวิทูลย์ แก้วสุวรรณ ที่พรรคฯเปิดตัวแล้วแต่ชวดไม่ได้ลง อีกคน คงเป็น หมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ “ทายาทราชครู” นายปรพล อดิเรกสาร หากสองสาวแย่งคะแนนกันไปมา ตาอยู่ อย่าง “หนุ่มปาล์ม” อาจสอดแทรกได้
เขต 2 โซนอ. แก่งคอย อ.มวกเหล็ก อ.วังม่วง ผู้สมัครหมายเลข 7 (กำนันบัติ) นายสมบัติ อำนาคะ ส.ส.สระบุรี ครั้งที่แล้วสังกัดพรรคพลังประชารัฐ มาครั้งนี้ ตามลูกพี่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานไปอยู่พรรค พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยอุ้มบุตรสาว สจ.อ้อ นางวราณธร อำนาคะ สจ.เขต อ.แก่งคอย ไปลงสมัคร ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ไต่เต้าสู่การเมืองระดับชาติที่เขต 1 ด้วย ส่วนคู่แข่งสำคัญ คือผู้สมัครหมายเลข 6 นายอรรถพล วงษ์ประยูร (ส.ส.อั๋น) พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.ในเขตนี้ ก่อนลงสมัคร มีตำแหน่งเป็นรองนายก อบจ.สระบุรี ถือเป็น “น้องเลิฟ” บิ๊กจ้อนอีกคนหนึ่ง
เขต 3 เขตนี้ ผู้สมัคร ล้วนเป็นคนหนุ่ม-สาว หน้าตาดีแทบทั้งสิ้น ผู้สมัครที่มีผู้กล่าวถึงกันว่าเป็น “ตัวเก็งมาตลอด” ผู้สมัครหมายเลข 5 นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ (เม้ง) สังกัดพรรคภูมิใจไทย ที่ว่าแน่ๆ มีหวั่นไหวเหมือนกัน คงไม่ใช่ความสวยของผู้สมัครสาวๆ หรอกนะ แต่ ผู้สมัครหมายเลข 2 น.ส.สิริพัชระ จึงธีรพานิช พรรคเพื่อไทย ความรู้ดี หลานสาว อดีต ส.ส.ฉัตรชัย ศิลาพร คนดังหนองแค หาก ส.ส.เม้ง (ประมาท) อาจพลาดได้เช่นกัน ส่วน ดร.ผึ้ง น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ สวยคมหุ่นนางแบบ พรรคพลังประชารัฐ วันก่อนพากันไปต้อนรับลุงป้อม พร้อม ส.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ขณะลงพื้นที่สระบุรี ให้เป่ากระหม่อมมาแล้ว ขยันลงพื้นที่ถี่ยิบ น่าเสียดายเปิดตัวช้าไปหน่อย
เขต 4 หมายเลข 1 แชมป์เก่า แต่(ย้ายพรรค) นายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.เก่า เดิมอยู่เพื่อไทย แต่ครั้งนี้ โยกไป พลังประชารัฐ คนละพรรคกับ นายอรรถพล วงษ์ประยูร น้องชาย (เพื่อไทย ในเขต 2) คู่แข่งคือ ผู้สมัคร หมายเลข 3 นายบุญส่ง เกิดหลำ (สว.ใหญ่) พรรคเพื่อไทย นักการเมืองคร่ำหวอดในย่าน อ.บ้านหมอ อ.หนองโดน อ.ดอนพุด ก่อนหน้านี้ถูกวางตัวไปสมัครในเขต 2 จึงผิดฝา ผิดตัว เช่นเดียวกันในเขตนี้ พรรคเพื่อไทยเปิดตัว นายประสิทธิ์ อะนะมาน (เสี่ยบ้านจัดสรร) เป็นตัวแทนพรรคฯ แต่เมื่อถึงเวลา กลับเป็นนายบุญส่ง เกิดหลำ ย้ายกลับถิ่นเดิมที่ (เขต 4)จึงมีอิทธิฤทธิ์ ขึ้นทันที
ฟันธง...เขต 1 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย (ส.ส.นก) กับ น.ส.ขานิฐาณันท์ เทียมประเสริฐ ( ส.ส.กล้วย) สูสีสุดประมาณ เขต 2 เสือเฒ่า นายสมบัติ อำนาคะ กับ นายอรรถพล วงษ์ประยูร ใครเข้าถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมากกว่ากัน คนนั้นเข้าป้าย เขต 3 (ส.ส.เม้ง) นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ มีบทเรียนจากครั้งที่แล้ว คราวนี้ น.ส.สิริพัชระ จึงธีระพานิช จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้ง เขต 4 นายองอาจ วงษ์ประยูร กับ นายบุญส่ง เกิดหลำ อะไรที่ว่าแน่ๆ มีผู้สมัครบางคนกระซิบให้ฟังมา กระแสดีๆ แต่กระสุนด้าน อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น 14 พ.ค.66 ได้รู้กัน
